ททท.แถลง'เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง'5จังหวัดชูวัฒนธรรมท้องถิ่น

ในเทศกาล "ลอยกระทง" ประจำปี 2561 ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 22 พฤศจิกายน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ได้ร่วมจัดงานลอยกระทงภายใต้ชื่อ "เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" นาง สุจิตรา จงชาณสิทโธ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) บอกว่า ททท.สนับสนุนเทศกาลลอยกระทงต่อเนื่อง และปีนี้มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง จึงได้ร่วมสนับสนุนจัดงานลอยกระทงขึ้นภายใต้ชื่อ "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" โดยร่วมสนับสนุนหลักๆใน 5 จังหวัด คือ จ.ร้อยเอ็ด, จ.เชียงใหม่, จ.สุโขทัย, จ.ตาก และจ.สมุทรสงคราม ซึ่งแต่ละจังหวัดต่างมีอัตลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีประเพณีลอยกระทงที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นทุกปี คาดว่าตลอดเทศกาลลอยกระทงใน 5 จังหวัดนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 500,000 คน และมีรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท และเมื่อรวมทั่วประเทศตลอดเทศกาลลอยกระทงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้างานกว่า 2,000,000 คน  สร้างรายได้กว่า 5,700 ล้านบาท พร้อมเชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านมาท่องเที่ยวได้มากขึ้นและจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย

ด้านนาย วันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ระบุว่า ปีนี้จังหวัดจัดงานลอยกระทงระหว่างวันที่ 21-22 พฤศจิกายน มี 4 กิจกรรมหลักๆ กิจกรรมแรกคือ จังหวัดได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 พระราชทานพระประทีปมาลอยที่บึงพลาญชัย สวนสมเด็จย่า ต่อมาคือ การแข่งขันประกวดกระทงใหญ่ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยังมีอีก 2 กิจกรรมที่ห้ามพลาด คือ การรำวงเอกลักษณ์แบบท้องถิ่นในชื่อท่า "สมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีป" ที่ใช้คู่รำกว่า 2,500 คู่ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน และวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่จะมีขบวนแห่ 11 ขบวนที่มาในแนวการแต่งกายย้อนยุคพร้อมการจัดกิจกรรมแสง สี เสียง สื่อผสมในชื่อ "สมมาคงคานาคาราชัน"

ส่วนนาย สุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า ปีนี้จังหวัดจะจัดงานลอยกระทงติดต่อกัน 10 วัน 10 คืน เริ่มวันที่ 16 พฤศจิกายน-25 พฤศจิกายน ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ภายใต้ชื่อธีมว่า "ร้อยประทีป หลอมรวมใจ เทิดไท้องค์ราชัน" ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมมากกว่า 10 กิจกรรม เช่น การประกวดกระทง, พิธีรับอรุณแห่งความสุขด้วยการทำบุญตักบาตรที่วัด, การแสดงแสง สี เสียง สื่อผสมเกี่ยวกับนางนพมาศ, การจัดแสดงพลุ และการนำตะเกียงไปจุดตามโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัด เป็นต้น จุดเด่นของงานที่ไม่ควรพลาดคือวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่จะมีขบวนอัญเชิญไฟพระฤกษ์และพระประทีปแห่รอบเมืองสุโขทัย คาดว่าตลอด 10 วันจะมีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกว่า 300,000 คน มีรายได้สะพัดประมาณ 300 ล้านบาท

นางสาว ภัคนันท์ วินิจชัย ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ขอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมั่นใจว่า ปีนี้จังหวัดมีมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีภายใต้มาตรการ 2 ห้าม 3 ขอ คือ ห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ และห้ามจุดประทัดยักษ์ ส่วน 3 ขอ คือ ขออนุญาตปล่อยโคมต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ และให้ปล่อยตามเวลาและจุดที่กำหนดให้แล้วเท่านั้น, ขอความร่วมมือไม่นำโฟมและพลาสติกเข้าภายในงาน และขอไม่ใช้กระทงที่ทำจากขนมปัง เนื่องจากทำให้น้ำในแม่น้ำเน่าเสีย

สำหรับงานประเพณีเดือนยี่เป็งในปีนี้ กำหนดจัดตั้งแต่วันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2561 ที่ประตูท่าแพ, อนุเสาวรีย์สามกษัตริย์ และรอบจังหวัด โดยจะมีการแสดงประติมากรรมโคมไฟยี่เป็งรอบคูเมือง ส่วนจุดเด่นของงานอยู่ที่วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่จะมีการประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ด้วย