ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันที่ 18 ตุลาคม 2561 ช่วงที่ 2

18 ตุลาคม 2561, 08:04น.


+++วันนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมมอบนโยบายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้า ในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ 64 เมืองทั่วโลก เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้และสถานการณ์ ส่งออกปี 2562



+++กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำเป้าหมายการส่งออกปี 2562 นำเสนอนายสมคิด ตั้งเป้าขยายตัวร้อยละ 5-8 คิดเป็นมูลค่า 2.68-2.76 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเพื่อบรรลุเป้าหมายจะต้องส่งออกให้ได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 2.23-2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



+++น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการประชุมดังกล่าวได้เชิญตัวแทนภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย สำหรับการส่งออกปีนี้ ขยายตัวได้เกิน เป้าหมายร้อยละ 8 แน่ และอาจขยายตัวได้ถึง ร้อยละ 9  จากปี 2560



+++การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ประชุมหารือแนวทางในการปฎิรูปด้านการท่องเที่ยวของไทย มีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน พร้อมทั้งปาฐกถาเรื่องสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ตลาดนักท่องเที่ยว การอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าประเทศ ความปลอดภัย ปัญหา อุปสรรค รวมถึงข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยว



+++หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ตำแหน่งระดับ ผอ. จำนวน 2 คนพร้อมนำหลักฐานทั้งคลิปวิดีโอ ไฟล์เสียง และเอกสารทางไลน์ ที่อ้างว่าเป็นหลักฐานที่เรียกรับเงิน 2 ล้านบาท จากนักธุรกิจเช่ารถในพื้นที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีการแอบอ้างชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นผู้ให้มาดำเนินการมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน นักธุรกิจให้เช่ารถกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. มีความสนิทสนม ต่อมาได้เรียกรับเงิน โดยอ้างว่านักธุรกิจคนดังกล่าว ลักลอบเล่นการพนันสกุลเงินบิตคอยด์ (หุ้นบิตคอยด์) และฟอกเงินหลบเลี่ยงภาษี หากไม่จ่ายเงิน ก็จะต้องถูกดำเนินคดี



+++พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ง. กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบผิดจริง จะดำเนินการกับเจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ถึงที่สุด ตามมาตรา 11 แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ระบุว่า ถ้าข้าราชการป.ป.ง.ทำผิดเอง ต้องระวางโทษเป็น 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้  ยืนยันว่า ถ้าประชาชน พบการกระทำผิด แจ้งเบาะแสมาได้ที่สำนักงานป.ป.ง. ที่สายด่วน ป.ป.ง. 1710



+++การดำเนินคดีกับนายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) พ.ต.อ.ปริญญา เหลืองอุทัย ผกก.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า จากคลิปวีดีโอ สามารถดำเนินคดีนายพิเศษได้อยู่แล้ว มีรายงานว่า ช่วงบ่ายนี้ นายพิเศษ จะนำปืนของกลางให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งถ้าผู้ต้องหาไม่นำอาวุธปืนมาแสดงเจ้าหน้าที่ ต้องพิจารณาออกหมายค้นบ้านพัก เพื่อหาอาวุธปืนนำมาประกอบสำนวนคดี ชุดสืบสวนตรวจกล้องวงจรปิด ดูพฤติกรรมขับรถของทั้งสองฝ่าย และจะเรียกรปภ.ที่ศูนย์ราชการ 2 คน เพื่อหาข้อเท็จจริงด้วย รวมทั้งคนที่โพสต์คลิปด้วย หลังจากนั้น พนักงานสอบสวน จะนัดนายพิเศษมาอีกครั้งและจะสรุปสำนวนรวบรวมหลักฐาน นำส่งชั้นศาลให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อหานายพิเศษ 2 ข้อหาคือ พกปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุ อันควร และใช้ปืนทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว



+++ชื่นชม ร.ต.อ.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ รอง สว.สายตรวจทางหลวง 1 กก.2 ทล. พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ด.ต.วุฒิชัย แพงสกล ผบ.หมู่งานสายตรวจ 3 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร  ร่วมกับพลเมืองดี ทุบกระจกรถเก๋งช่วยเหลืออาจารย์รัฏฐกานต์ โกมลรัตน์ อายุ 40 ปี อาจารย์วิทยาลัยนานาชาติภาควิชาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยมหิดล ประสบอุบัติเหตุขับรถชนท้ายรถกระบะ บนถนนคู่ขนานลอยฟ้า บาดเจ็บติดคารถขณะเกิดเพลิงไหม้ออกมาได้หวุดหวิด แต่อาจารย์ก็เสียชีวิตที่โรงพยาบาล คาดอวัยวะภายในบอบช้ำ



+++ จากการสอบสวนคู่กรณี ให้การว่าขับรถบรรทุกยาหม่องจากท่าพระจันทร์ไปส่งลูกค้าที่ขนส่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 2 ขับช่องทางขวาสุดเมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงเบรกดังลั่นและถูกรถชนท้ายอย่างแรงจนเสียหลักเกือบพลิกคว่ำ ประคองรถเข้าข้างทางหันไปมองกระจกรถหลังพบว่า รถที่ชนท้ายเกิดเพลิงลุกไหม้



+++พ.ต.ท.ณัฐนันท์ ม่วงงาม สว. (สอบสวน) สน.คู่ขนานลอยฟ้า กล่าวถึง ด้านคดีว่าจะเร่งสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องพยาน คนขับรถคู่กรณี และตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อรวบรวมหลักฐานก่อนดำเนินการตามขั้นตอน 



+++คดีอาชญากรรม หญิงเสียชีวิตท้ายรถกระบะ กรณีที่ นายทรงสิทธิ์ หรือ ป๊อก โอสถ สามีวัย 32 ปี หึงหวง น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือใหม่ อายุ 29 ปี ภรรยาสาวจนเกินเหตุ มีการทำร้ายกันอยู่บ่อยครั้ง ภายหลังฝ่ายภรรยาทนไม่ไหว หนีไปอยู่บ้านเพื่อน แต่โชคร้าย ฝ่ายสามีตามจนเจอ พยายามลากภรรยากลับบ้าน พอขัดขืนจึงคว้ามีดแทง ก่อนจะหนี ทำให้แม่สามีต้องขับรถเพื่อน ไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน น.ส.วราภรณ์ เสียชีวิตคากระบะหลังรถ



+++พ.ต.อ.วรพันธ์ พิสุทธานนท์ ผกก.หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ตำรวจพยายามประสานไปยังญาติพี่น้องของนายทรงสิทธิ์ ให้พาผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เข้ามามอบตัว พนักงานสอบสวน จึงรวบรวมพยานหลักฐานให้ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ จอดนอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ไปขออำนาจศาลจังหวัดจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีด ไปในเมืองหมู่บ้าน และที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร



+++จากการตรวจค้นประวัติพบว่านายทรงสิทธิ์ เคยถูกจับกุมในคดี ทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี, คดียาเสพติดในพื้นที่ จ.นนทบุรี และข้อหาเสพยาเสพติดในพื้นที่ สภ.คูคต มาแล้ว



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X