ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.35น. วันที่ 17 ตุลาคม 2561

17 ตุลาคม 2561, 12:24น.


+++หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. ให้นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีชักปืนขึ้นมาขู่รถแท็กซี่คู่กรณี สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล มิได้เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ และเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน รอบด้าน จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยมีนางณัชชา เกิดศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการ และให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบภายใน 15 วัน ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป



+++พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก หลังจากรับตำแหน่ง  ใช้เวลานานถึง 38 นาที  ทักทายสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง  พร้อมระบุว่า  ที่ผ่านมาได้พบปะกับสื่อมายาวนาน  ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกัน   สื่อมวลชนก็ทำงานตามสายวิชาชีพ ไม่ต่างจากทหาร ในแง่การหาข่าว   การทำข่าวทหารมีความสลับซับซ้อน บางเรื่องที่สื่อต้องการความประจักษ์ชัด แต่กองทัพบกก็ไม่สามารถที่จะขยายความให้ได้  ซึ่งก็เป็นที่เข้าใจกันด้วยเหตุผลบางประการ



+++ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนการปกป้องสถาบันกองทัพบก จะใช้ศักยภาพและความสามารถทุกอย่างในการปกป้องสถาบัน สำหรับการหมิ่นสถาบันและการก้าวล่วงที่เกิดขึ้นในหลายครั้ง เกิดจากคนสติไม่สมประกอบ ส่วนคนที่จิตปกติแต่มีความคิดแปลกๆ แต่ก็อยู่ไม่ได้อยู่เมืองไทย มีการหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะอยู่เมืองไทยไม่ได้



+++นโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผบ.ทบ.กล่าวว่า จะลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อมอบนโยบายการทำงานอย่างเป็นทางการ ให้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแยกแยะแต่ละคดีความให้ออกว่าเหตุการณ์ใดเป็นก่อการร้าย หรือเหตุการณ์ไหนเป็นเรื่องส่วนตัว การทำสถิติของเหตุการณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่สำคัญจะเข้มงวดกำลังพลให้มากกว่านี้ และได้เชิญพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาประชุมเพื่อมอบนโยบาย และจะลงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ซึ่งเป็นอดีตผบ.ทบ.ได้เคยดำเนินการไว้ เช่น การไปค้างคืนในพื้นที่เป็นเวลา 1-2 คืน เดือนละครั้งและจะทำเช่นนี้ให้ได้



+++พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวถึง ความเป็นไปได้ที่จะเปิดช่องทางสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า  ส่วนตัวเวลาจะใช้โทรศัพท์แต่ละครั้ง ยังให้ลูกน้องทำให้  และว่า ไม่มีเฟซบุ๊กและอินสตราแกรม แต่ได้ดูและติดตาม  เพราะนางกฤษติกา คงสมพงษ์ ภรรยา อยู่ในโซเชียล    



+++ผบ.ทบ. ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงในวาระพิเศษ ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ย้ำว่าอีกไม่นานกองทัพจะต้องเผชิญอีกหลายสถานการณ์ โดยปฏิทินการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ต้องทำความเข้าใจกับกำลังพล แยกแยะภารกิจ ยืนยันกองทัพจะตอบสนองนโยบายของทุกรัฐบาล ทหารสวมหมวก 2 ใบ คือ เป็น คสช. และกองทัพ ต้องระวังไม่ให้การเมืองเข้ามาฉกฉวยใช้ประโยชน์จากความช่วยเหลือประชาชน ในฐานะทหารอาชีพต้องแยกแยะภารกิจการเมือง กับภารกิจกองทัพ



+++พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.แถลงจับเครือข่ายแสร้งรักออนไลน์ หรือ โรแมนซ์สแกม ผู้ต้องหา 16 คน เป็นชาวไนจีเรีย 2 คน ชาวไทย 14 คน พร้อมยึด สมุดบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังสามารถอายัดเงินในบัญชีกลุ่มคนร้ายได้ 29 บัญชี เป็นเงินกว่า 1,600,000 บาท 



+++พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาคนไทย เป็นกลุ่มโพยก๊วน รับจ้างเปิดบัญชีและกดเงินให้ผู้ต้องหาไนจีเรีย ที่เข้ามาตั้งกลุ่มหลอกลวงประชาชนด้วยการแสดงตัวเป็นบุคคลอื่น จากนี้จะเน้นจับตาคนไทย ที่นำบัญชีไปขายหรือรับจ้างจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ เพื่อให้ได้สิทธิอาศัยในประเทศ ขอเตือนว่าจะถูกดำเนินคดีฐาน มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน 



+++ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว จับกุมนายยุน จู ฮยอน ชาวเกาหลีใต้ หลังได้รับการประสานจากทางการเกาหลีใต้ โดยทำลายเครื่องติดตามตัวระหว่างการคุมประพฤติในคดีข่มขืน แล้วหลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตำรวจตามจับตัวได้ที่พัทยา จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบพบว่านายยุน อยู่เกินกำหนดแล้ว 107 วัน จึงแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดก่อนผลักดันกลับไปรับโทษตามหมายจับต่อไป



+++ศาลอาญา สั่งเบิกตัวนายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรืออดีตพระวิรพล ฉัตตติโก หรือ อดีตหลวงปู่เณรคำ อดีตประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตัดสินพิพากษาคดีอนาจารเด็กหญิง ศาลอาญา นัดฟ้องคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายวิรพล เป็นจำเลยในความผิดฐานพรากผู้เยาว์ เพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277,317 กรณีช่วงระหว่างเดือนม.ค.2543 - กลางปี 2544 จำเลย ได้พรากเด็กหญิงวัย 13 ปี เศษ ไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เหตุเกิด ต.โพธิ์ ต.หนองแก้ว อ.เมือง และ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ต.แสนสุข ต.ห้วยยาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และที่อื่นๆเกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 ด้วย ชั้นพิจารณาจำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดและเด็กที่เกิดมาก็ไม่ใช่บุตรของตัวเอง และเดินหน้าสู้คดี  



+++ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์มีผู้ปกครองและเด็กผู้เสียหาย เบิกความสอดคล้องบันทึกคำให้การถึงรายละเอียด ช่วงเวลาตั้งแต่จำเลย ขับรถยนต์มารับผู้เสียหายไปทำอนาจาร จนผู้เสียหายย้ายไปจังหวัดอื่น เพราะกลัวผู้อื่นจะรู้เรื่อง โดยยังมีพนักงานสอบสวน ร่วมเบิกความด้วย ซึ่งพยานไม่เคยมีเหตุโกรธเคืองจำเลยมาก่อน จึงเชื่อว่ายากที่จะปั้นแต่งให้เรื่องตัวเองและครอบครัวอับอาย และขณะเกิดเหตุจำเลยใช้ความเป็นพระภิกษุที่ประชาชนให้ความเคารพศรัทธา กระทำผิด จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนัก พิพากษาให้จำคุกจำเลย ข้อหาพรากผู้เยาว์ 8 ปี ข้อหาชำเราเด็ก 8 ปี รวมจำคุก 16 ปี และให้นับโทษจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนที่ศาลอาญาพิพากษาแล้วมารวมด้วยอีก 20 ปี จึงรวมโทษจำคุกทั้งสองคดีเป็น 36 ปี ศาลพิจารณาแล้วสั่งจำคุก อีก 16ปี ชำเราเด็ก เนื่องจาก เห็นว่า เป็นพฤติกรรมร้ายแรง เนื่องจากก่อเหตุในขณะที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ รวมคดีฉ้อโกงประชาชนรับโทษอีก 36 ปี



แฟ้มภาพ  



 

ข่าวทั้งหมด

X