เวียดนาม เตรียมให้ต่างชาติถือหุ้นเพิ่มในกิจการสายการบิน

รัฐบาลเวียดนามวางแผนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติในสายการบินเวียดนาม เพื่อส่งเสริมการลงทุนและตอบสนองความต้องการการขนส่งทางอากาศที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงการขนส่งเวียดนามเสนอเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติจากร้อยละ 30 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 34 ในขณะที่ ภาคการท่องเที่ยว คาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนาม 17-18 ล้านคน และนักท่องเที่ยวภายในเดินทางในประเทศสูงถึง 82 ล้านคน ภายในปี 2563 แต่ตัวเลขดังกล่าวอาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หากภาคการบินพลเรือนยังด้อยการพัฒนา

ขณะเดียวกัน สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ประเมินว่า การขนส่งผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณร้อยละ 16 ในระหว่างปี 2563-2573 ขณะที่ การขนส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 18 จนถึงปี 2563 ซึ่งจะทำให้เวียดนามเป็นตลาดการบินที่เติบโตรวดเร็วเป็นอันดับ 5 ของโลกภายในปี 2578

อุตสาหกรรมการบินเวียดนาม ซึ่งมีสายการบินของตัวเอง 3 สายการบิน ได้แก่ สายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส สายการบินเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก และสายการบินเวียทเจ็ท มีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติ โดยสายการบินเวียทเจ็ท ต้องการให้รัฐบาลเพิ่มสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 49 โดยอ้างประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ในอาเซียน เช่น ไทยและอินโดนีเซีย ยังเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของชาวต่างชาติถึงร้อยละ 49 ฟิลิปปินส์ร้อยละ 40

นอกจากนี้ ยังเห็นว่า การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมการขนส่งผ่านการใช้ระบบการจัดการสมัยใหม่ แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า เวียดนามดำเนินนโยบายเปิดกว้างผ่านการอนุญาตให้ชาวต่างชาติอัดฉีดเงินทุนในภาคการบิน เพราะหากเวียดนามยังรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของชาวต่างชาติในอัตราต่ำจะส่งผลให้การดึงดูดเงินทุนของชาวต่างชาติเข้ามาในภาคการขนส่งการบินเป็นไปได้ยากขึ้น และอาจทำให้นักลงทุนหันไปใช้วิธีการอื่นๆ ในการเพิ่มการถือหุ้นในสายการบิน ยิ่งจะทำให้การควบคุมการลงทุนของต่างชาติในสายการบินเวียดนามมีความซับซ้อนมากขึ้น

ด้านสายการบินเวียดนาม แอร์ไลน์ส และสายการบินเจ็ทสตาร์ แปซิฟิก กลับต้องการให้รัฐบาลต่างชาติในสายการบินเพียงร้อยละ 35  เพราะมองว่า การที่นักลงทุนต่างชาติมีสิทธิวีโตข้อมติสำคัญในการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งยิ่งจะทำให้ยากต่อการควบคุมกิจกรรมของสายการบินเวียดนาม

(1230 F171)