ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19 กันยายน 2561 เวลา12.35น.

+++นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผย กรณีการโพสต์ในโลกออนไลน์ แฟนคลับศิลปินเกาหลี ขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรช่วยพาเข้าไปในเขตหวงห้ามของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พร้อมกับแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อไปพบกับศิลปินชื่อดังจากประเทศเกาหลีใต้ ณ จุดตรวจคนเข้าเมืองและจุดรับกระเป๋า สายพานหมายเลข 17 ว่า  ทอท.ได้แจ้งความดำเนินคดีผู้หญิงทั้ง 2 คน ที่เข้ามาในเขตหวงห้ามแล้ว ในข้อหาบุกรุกพื้นที่โดยมีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ส่วนการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร กรมศุลกากร ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รายแรกเป็นคนที่นำพาคนนอกเข้าไปในพื้นที่ ส่วนอีก 2 คนเป็นคนที่ให้ยืมบัตรหมายเลข 6 และให้ยืมชุดเจ้าหน้าที่ศุลกากร

+++นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยแพร่ข้อความในเฟสบุ๊ก ระบุว่า อ่อนต่อโลก (โซเชียล) โพสต์ในเรื่องไม่ควรโพสต์ อวดในเรื่องไม่ควรอวด โรค .. คาดไม่ถึงว่าโพสต์ไปแล้ว เรื่องที่ต้องการจะบอกคนอื่น กลายเป็นเรื่องที่ตนเองทำผิดกฎหมาย จะมีเรื่องผิดกฎหมายตามมา ...ข้อหาบุกรุกเขตหวงห้ามสนามบิน ข้อความและภาพที่โพสต์ไปกลายเป็นหลักฐานกลับมาดำเนินคดีกับตนเอง อย่างชัดเจน อีกหนึ่งบทเรียนในโลกโซเชียล ที่ควรเรียนรู้ ...อย่าให้เกิดขึ้นกับตัวเรา เล่าให้คนที่เรารักและห่วงใยฟัง เพื่อไม่ให้โซเชียลนำปัญหาหนักมาสู่เราและคนที่เราห่วงใยกันต่อไป ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ อย่าให้เกิดโทษแก่ตนเอง

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ปลดล็อคทางการเมือง ว่า การจะปลดล็อคทางการเมืองต้องรอให้ครบ 90 วัน ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ก่อน คาดว่าประมาณวันที่ 11 ธันวาคม 2561 จากนั้นจะเริ่มนับถอยหลัง 150 วัน   สู่การเลือกตั้ง  ซึ่งเร็วสุดยังคงเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 อย่างไรก็ตาม เวลานี้ได้คลายล็อคทางการเมืองในหลายเรื่อง  ยกเว้นการหาเสียงทุกช่องทาง  โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมาย หากพบมีผู้ฝ่าฝืน รวมถึง กลุ่มการเมืองที่ คสช. และ กกต. จะจับตาการเคลื่อนไหวด้วย

+++พล.อ.ประวิตร ให้โอวาทและนโยบายคณะนายทหารที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยทูตทหาร ผู้ช่วยทูตทหารเหล่าทัพ และรองผู้ช่วยทูตทหารเหล่าทัพ ณ ต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2561 จำนวน 16 นาย ตอนหนึ่งระบุ ขอแสดงความยินดี และต้องปฏิบัติตัวให้ดี นำเรื่องราวต่างๆของกองทัพ การเมืองของเมืองไทย ความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยไปเล่าให้กับประเทศที่เราไปได้รับทราบว่า  ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ประกอบกับไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2562 อยากฝากเจ้าหน้าที่ของเรา ผู้ช่วยทูตทั้งหลายจะต้องแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศไทยให้ต่างประเทศได้รับทราบ

+++สภาพอากาศและการบริหารจัดการน้ำ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศวันนี้ว่า ขณะนี้ พายุมังคุดสลายตัวแล้ว แต่ประเทศไทยยังได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำที่อ่าวเบงกอล ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่  โดยพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก 38 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน ลำปาง สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี  พังงา นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ภูเก็ต ตรัง สตูล สงขลา

+++เมื่อพิจารณาปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง พบว่า มีฝนตกหนักถึงหนักมากใน 18 จังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังน้ำไหลหลาก แบ่งเป็น ภาคเหนือ น่าน 134 มม. ลำปาง 97 มม. เชียงราย 90 มม. พะเยา 88 มม. อุตรดิตถ์ 83 มม. แพร่ 80 มม. สุโขทัย 80 มม. เชียงใหม่ 73 มม. ตาก 49 มม.

+++ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย 78 มม. หนองคาย 61 มม.

+++ภาคกลาง กำแพงเพชร 77 มม.

+++ภาคตะวันออก ตราด 110 มม. นครนายก 100 มม. จันทบุรี 70 มม.

+++ภาคตะวันตก กาญจนบุรี 53 มม. ประจวบคีรีขันธ์ 46 มม.

+++ภาคใต้ ระนอง 90 มม.ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ฝนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึงวันที่ 24 กันยายน พบว่า ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเริ่มมีปริมาณฝนลดลง

+++ศูนย์เฉพาะกิจฯ ยังคงติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำ-ลำน้ำที่สำคัญที่มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งและยังมีฝนตกต่อเนื่อง ได้แก่ แม่น้ำน่าน อ.เวียงสา จ.น่าน แม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควใหญ่ จ.กาญจนบุรี และแม่น้ำในภาคใต้ คลองละงู บริเวณ ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล คลองนางน้อย ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง

+++อ่างน้ำขนาดใหญ่ที่มีระดับเกินเกณฑ์ควบคุมและปริมาณน้ำเกินร้อยละ 80 ของความจุ จากเมื่อวานนี้ 5 แห่ง ได้แก่ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร 102% เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี คิดเป็น 97% เขื่อนนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี 94% เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี 93% เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก 86%  ล่าสุดศูนย์เฉพาะกิจฯ เพิ่มการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา อีก 1 แห่ง  ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 258 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 82% ปริมาณน้ำไหลเข้า 1.64 ล้าน ลบ.ม.  ลบ.ม. ปริมาณน้ำระบายออก 0.17 ล้าน ลบ.ม.

+++นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนสิงหาคม 2561 ว่า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 92.5 ลดลงจากระดับ 93.2 ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจาก ปัจจัยฤดูกาลที่มีฝนตกมากต่อเนื่องและน้ำท่วมหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระทบกำลังซื้อในส่วนภูมิภาคส่งผลให้ยอดขายชะลอตัวลง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไม่คงทนและกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขณะที่ ต้นทุนประกอบการเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันและวัตถุดิบ รวมทั้งความกังวลของผู้ส่งออกที่มีต่อมาตรการภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐฯ  

+++การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสองเกาหลีที่กรุงเปียงยาง ในวันที่ 2 ได้สิ้นสุดลงแล้ว ประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ และนายคิมจอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ร่วมกันแถลงผลการประชุมว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการเจรจาครั้งนี้ โดยเกาหลีเหนือ ตกลงจะปิดฐานทดลองขีปนาวุธที่มีอยู่ นอกจากนี้ ยังมีการลงนามของรัฐมนตรีกลาโหมในการลดความตึงเครียดทางทหารระหว่างกัน ขณะที่นายคิม ได้ตอบรับที่จะเดินทางเยือนกรุงโซลของเกาหลีใต้ในเร็วๆ นี้ด้วย 

+++มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั่งร้านก่อสร้างถล่มที่โรงแรมในสเปน มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 11 คนจากอุบัติเหตุนั่งร้านทรุดตัว ที่โรงแรมริทซ์ ในกรุงมาดริด สเปน ที่กำลังมีการซ่อมบำรุงภายในโรงแรมที่มีอายุ 110 ปี ตำรวจมาดริด เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 21.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมาดริด เปิดเผยว่า นั่งร้านทรุดพังลงมาจากชั้นที่ 6 โดยผู้บาดเจ็บที่นำส่งโรงพยาบาล มีอยู่ 2 คนที่มีอาการสาหัส ส่วนอีก 4 คนบาดเจ็บเล็กน้อย และมีอีกอย่างน้อย 3 คนที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากใต้ซากความเสียหาย

+++โรงแรมริทซ์ ในเครือเดียวกับ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุ๊ป ปิดปรับปรุงมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณ 99 ล้านยูโร และมีกำหนดจะเปิดให้บริการอีกครั้งในปลายปีหน้า 

แฟ้มภาพ