ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19 กันยายน 2561 ช่วงที่ 1

19 กันยายน 2561, 06:16น.


+++นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ช่วงวันที่ 18-19 กันยายน ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มมากขึ้น และในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณพื้นที่รับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกต่อเนื่อง



+++อธิบดีกรมชลประทาน มีหนังสือเรื่องแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ เขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง ถึงผู้ว่าราชการในพื้นที่ดังกล่าวว่าจะมีการเริ่มผันน้ำเข้าทุ่งนาสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายนนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีพื้นที่ทุ่งนา 7 แห่ง เป็นแก้มลิงตามธรรมชาติและชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว รวมเนื้อที่กว่า 6 แสนไร่ รับน้ำได้ถึง 1,000 ล้าน ลบ.ม.



+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ตรวจการเตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำเหนือคลองแสนแสบ โดยมีผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ บรรยายสรุปสถานการณ์น้ำเหนือและการเตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำของ กทม.  ผู้แทนกรมชลประทาน บรรยายสรุปเกี่ยวกับการบูรณาการความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำระหว่างกรมชลประทานและ กทม.   ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี  และเขตคลองสามวา  บรรยายสรุปเกี่ยวกับปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จากนั้นผู้ว่าฯกทม.ตรวจระดับน้ำ ณ ประตูระบายน้ำมีนบุรี และลงเรือตรวจการณ์เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนบริเวณริมคลองแสนแสบ (นอกแนวคันกั้นน้ำ) จากประตูระบายน้ำมีนบุรีถึงท่าเรือมัสยิดกมาลุลอิสลาม  



+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลงนามในหนังสือเชิญตัวแทนพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง เข้าร่วมประชุมในวันที่ 28 กันยายน เป็นการชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง มีการบรรยายในหัวข้อ พรรคการเมืองไทย มีอะไรที่ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่  ส่วนเรื่องการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคสช. นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต.เป็นผู้บรรยาย



++++ทั้งนี้ จะมีการแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.การเตรียมการและการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 2.การดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ 3.การเงินของพรรคการเมืองและค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส.



+++พรรคการเมืองในปัจจุบันมีทั้งหมด 74 พรรค ส่วนกลุ่มการเมือง ที่ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองและกลุ่มที่ยื่นแล้วอยู่ในระหว่างการรอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรับรองเป็นพรรคการเมือง มีทั้งสิ้น 118 กลุ่ม



+++การประชุมกกต. เมื่อวานนี้  มีการหารือเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง  จำนวนประชากรต่อ ส.ส. 1 คน จะใช้ประชากร 189,110 คน การกำหนดวันเลือกตั้ง เป็นอำนาจของ กกต.โดยหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งแล้ว กกต.จะประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง ต้องดูความพร้อมของสำนักงานและพรรคการเมือง จะต้องมีสาขาและตัวแทนพรรคการเมืองตามที่กฎหมายกำหนด สำนักงานกกต.มีหน้าที่สนับสนุนการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรม เตรียมความพร้อมทั้งเรื่องงบประมาณ อบรมคน กรรมการประจำหน่วยทั้งหมด 95,000 หน่วย อย่างไรก็ตาม วันเลือกตั้งที่แน่นอนจะมีความชัดเจนในการประชุมร่วมกันระหว่าง คสช. แม่น้ำ 5 สาย กกต. และพรรคการเมือง รอบสอง



+++สำหรับระเบียบ กกต.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ขณะนี้ ผ่านความเห็นชอบของกกต.แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจทานคำถูกผิดจากนั้นจะเสนอให้ประธาน กกต.ลงนาม คาดว่า จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ไม่เกินสัปดาห์หน้า



+++นักวิเคราะห์ มองว่า จากปัจจัยภายในประเทศ เรื่องความคืบหน้าการเลือกตั้ง และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้หุ้นไทยปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1,744.42 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,655.82 ล้านบาท



+++ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง นักลงทุน มองมาตรการรีดภาษีตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐฯและจีนรอบล่าสุด ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่กังวลกัน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 184.84 จุด ปิดที่ 26,246.96 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.51 จุด  ปิดที่ 2,904.31 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 60.32 จุด ปิดที่ 7,956.11 จุด หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยกระดับกดดันจีน ด้วยการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ แต่จะเป็นการจัดเก็บภาษีศุลกากรในอัตราร้อยละ 10 ไปจนถึงสิ้นปี จากนั้นอัตราจะปรับขึ้นเป็นร้อยละ 25 นักลงทุน คลายความกังวลที่สหรัฐฯไม่ได้จัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ตามที่เคยขู่ไว้



+++ล่าสุด จีน ตอบโต้ด้วยมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 60,000 ล้านดอลลาร์ แต่จะเป็นการจัดเก็บภาษีศุลกากร ในอัตราร้อยละ 5 และร้อยละ10 เท่านั้น จากเดิมที่ขู่รีดภาษีในอัตราร้อยละ 5 ร้อยละ 10 ร้อยละ 20 และร้อยละ 25

+++ส่วนราคาทองคำ  ปิดลบในกรอบแคบๆ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนกระตุ้นให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,202.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 69.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 98 เซ็นต์ ปิดที่ 79.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++คดีที่นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำ ชาว จ.ร้อยเอ็ด แจ้งความที่สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.วรพล สันติพิริยาภรณ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1 กับพวกรวม 6 นาย ร่วมกับพลเรือน กรรโชกทรัพย์และใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเรียกรับเงินสินบน  50,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ล่าสุด พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เซ็นคำสั่งให้ ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 จำนวน 6 คน ออกจากราชการไว้ก่อน ประกอบด้วย พ.ต.ต.บัญชา เจือจาน ตำรวจสน.บางนา ร.ต.อ.สันติ คำพันธุ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.1 ร.ต.อ.ไพรัช ภู่ระหงษ์ รอง สว.กก.สส.บก.น.1 ด.ต.วรพล ด.ต.เกษม โอชาพงศ์ ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1 และ ด.ต.สงกรานต์ ราชไชยา ผบ.หมู่งานสืบสวน กก.สส.บก.น.1



+++พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ ผกก. (กลุ่มงานสอบสวน) บก.น.1 หัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เชิญนายศักดิ์ชัย ไปจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงตามเวลาที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนพลเรือนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ขณะเดียวกัน มีจดหมายข่มขู่ฆ่านายศักดิ์ชัย ตำรวจกำลังเร่งสืบสวนติดตามคนขู่ฆ่ามาดำเนินคดี



+++นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายศักดิ์ชัย เข้าพบ ร.ต.อ.ปราโมทย์ ศุขศรีไพศาล รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ตำรวจกองปราบปรามช่วยรับโอนคดีมาสืบสวนสอบสวน



แฟ้มภาพ 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X