บูม จิรัชพิสิษฐ์ ปฎิเสธหลอกต่างชาติลงทุนเงินดิจิตอล อ้างถูกพี่ชายแอบใช้บัญชี

09 สิงหาคม 2561, 13:05น.


ตำรวจกองปราบปรามควบคุมตัว นายจิรัชพิสิษฐ์  จารวิจิต หรือบูม  นักแสดงจากซีรี่ย์ความรักครั้งสุดท้าย มาสอบปากคำที่กองปราบปราม หลังมีพฤติการณ์ร่วมกับพวก สมคบและหลอกลวงชาวต่างชาติ โดยชักชวนให้ร่วมลงทุนประกอบธุรกิจซื้อ-ขาย สกุลเงินดิจิตอล ในชื่อ dragon coin (DRG) จนมี ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเหรียญบิตคอย ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิตอล  เข้าไปในบัญชีของ นายบูมและพวกเป็นเงินกว่า 5,500,000เหรียญ คิดเป็นเงินบาทกว่า 797ล้านบาท



พลตำรวจตรีไมตรี  ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ชาคริต สวัสดี  รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า  นายบูม ถือเป็น1ใน3ในครอบครัวนี้ที่ถูกออกหมายจับ เนื่องจากการสอบสวนพบว่า นายบูมเปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายชาวต่างชาติ แทนพี่ชายซึ่งเป็นตัวการหลักในขบวนการนี้  นอกจากนายบูมแล้วเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับนายปริญญา จารวิจิต ,นางสาวสุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่ชายและพี่สาวของนายบูม ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน โดยเงินที่ได้จากการหลอกร่วมลงทุนนี้จะกระจายไปยังบุคคลในครอบครัว ซึ่งขณะนี้ พบมีเงินถูกถ่ายโอนออกนอกประเทศแล้วกว่า30ล้านบาท ส่วนการติดตามเงินตำรวจ สามารถ ยึดเงินคืนกลับมาได้200ล้านบาท  ทั้งนี้ ในส่วนของข้อหาฉ้อโกง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป 





สำหรับพฤติการณ์ของขบวนการนี้ จะหลอกนักลงทุนชาวต่างชาติร่วมลงทุนเหรียญบิตคอยให้มาลงทุนในประเทศไทยโดยนำเหรียญดังกล่าวไปเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งสกุลเพื่อลงทุนต่อไปยังตลาดหลักทรัพย์และนำไปใช้ในบ่อนการพนันที่มาเก๊า แต่ไม่มีการนำเงินไปลงทุนอย่างที่กล่าวอ้าง แต่นำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนใช้จ่ายภายในครอบครัว และใช้เงินซื้อที่ดิน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้แล้วกว่า200ล้านบาท    จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 40บัญชี



จากการสอบสวน นายบูม ยังคงให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็น โดยอ้างว่าบัญชีดังกล่าวถูกพี่ชายนำไปใช้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พี่ชายของนายบูมเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนพี่สาวได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้ว นอกจากนี้จากข้อมูล ทราบว่าขบวนการดังกล่าว มีตัวการ เป็นเจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ชื่อดังอีกด้วย มีรายงานว่า หลังนักลงทุนต่างชาติ(ชาวฟินแลนด์)   รู้ตัวว่าถูกฉ้อโกงจึงได้รับการติดต่อจากอดีตนายตำรวจนอกราชการชื่อดัง ติดต่อขอเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ขอส่วนแบ่งร้อยละ30 แต่ผู้เสียหายกลัวจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย  จึงเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามแทน

ข่าวทั้งหมด

X