พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมใน กทม.กว่า3พันราย เสียชีวิต 3 ราย เร่งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์

03 สิงหาคม 2561, 15:02น.


สถานการณ์ไข้เลือดออก ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ระหว่างวันที่ 7 ม.ค.- 3 ก.ค. 2561 นพ.ชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 3,701 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 65.13 รายต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับอัตราป่วยโรคไข้เลือดออกของประเทศ กรุงเทพมหานครอยู่ในลำดับที่ 30 และปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย ในเขตหนองจอก ดินแดงและบางกะปิ จึงให้ทุกหน่วยงานบูรณการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก



ขณะเดียวกัน สำนักอนามัยจะเร่งรณรงค์ในการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในเดือนสิงหาคม 2561 ส่วนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก ประกอบด้วย การควบคุมโรค โดยจัดทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) ดำเนินการตรวจสอบการระบาดเมื่อพบผู้ป่วย รวมถึงสำรวจ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทั้งในบ้านและบริเวณรอบบ้าน และพ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวเต็มวัยในรัศมี 100 เมตร รอบบ้านผู้ป่วย ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในวันที่ 3,7,14,21,28 ของทุกเดือน นับจากวันแรกที่เข้าควบคุมโรค ส่วนการเฝ้าระวังไข้เลือดออก สำนักอนามัย ได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตรวจจับการระบาดของโรคในพื้นที่และแจ้งเตือน มีการสำรวจ ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ในพื้นที่เสี่ยงทุกสัปดาห์ บริเวณแหล่งชุมชน โรงเรียน ศาสนสถาน สถานพยาบาล สวนสาธารณะ โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขดำเนินการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนสถานการณ์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ดำเนินการตามหลัก 3 เก็บ 5 ป. คือ เก็บบ้านให้เรียบร้อย เก็บขยะ กำจัดภาชนะที่อาจมีน้ำขัง เก็บน้ำ กำจัดแหล่งน้ำไม่ใช้ประโยชน์



ด้านนพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กล่าวว่า พบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไข้เลือดออกในเขตหนองจอก ส่วนรายที่ 2 พบในพื้นที่เขตดินแดงและรายที่ 3 พบในเขตบางกะปิ โดยผู้ป่วยเสียชีวิตไล่เลี่ยกันเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ส่วนสาเหตุโรคไข้เลือดออกที่ระบาดมากในช่วงนี้ เนื่องจากมีฝนตกชุก เกิดน้ำขังตามภาชนะต่างๆ ทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และประชาชนอาจจะชะล่าใจในการป้องกันโรคไข้เลือดออก จึงแนะนำให้ประชาชนป้องกันอย่าให้ยุงกัด สวมใส่เสื้อผ้าอย่างมิดชิด ทาครีมหรือพ่นสเปรย์ไล่ยุง จุดยากันยุง ฉีดสเปรย์ฆ่ายุง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายตามหลัก 3 เก็บ หากมีอาการสำคัญเสี่ยงเป็นโรคไข้เลือดออก คือ ไข้สูงลอย หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เกิน 3 วัน มีอาการเหนื่อยหน้ามืด ใจสั่น เลือดกำเดาออกให้รีบแพทย์ทันที

ข่าวทั้งหมด

X