บริษัทเอกชนในสหรัฐฯ เร่งเตรียมแผนรับมือนโยบายการค้าและภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ

บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ หลายแห่งตั้งแต่อเมซอนไปจนถึงโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และอัลโค คอร์ป บริษัทผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก กำลังวางแผนรับมือกับผลกระทบจากนโยบายการค้าและมาตรการกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บริษัทส่วนใหญ่กำลังพยายามเลี่ยงที่จะต้องเผชิญหน้ากับรัฐบาล ขณะเดียวกันก็จะพยายามรั้งประธานาธิบดีทรัมป์เพื่อให้ผ่อนปรนนโยบายและมาตรการดังกล่าว แหล่งข่าวรายหนึ่งให้ข้อมูลกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า อเมซอน บริษัทค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลกกำลังทบทวนเรื่องแผนการโฆษณา รวมทั้งหาทางลอบบี้รัฐบาลให้มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายการค้าของรัฐบาล

ขณะที่ โตโยต้า มอเตอร์ ภาคพื้นอเมริกาเหนือ ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบจากแผนการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า ก็ส่งพนักงานเข้าร่วมการเดินขบวนในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อแสดงท่าทีต่อต้านนโยบายกำแพงภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วมด้วยการส่งผู้บริหารไปพบกับสมาชิกสภาคองเกรส เพื่อชี้แจงถึงผลกระทบจากมาตรการกำแพงภาษี

ด้านผู้บริหารเครือเจเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันเองก็ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสในประเด็นเดียวกันนี้แล้วเช่นกัน จีเอ็มย้ำว่า มาตรการกำแพงภาษีอาจทำให้จีเอ็มต้องตัดสินใจลดกำลังการผลิต ตลอดจนแผนการจำหน่ายรถยนต์ทั้งในและต่างประเทศลง นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะจ้างนายเอเวอเรตต์ ไอเซนสแตท อดีตรองผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติและที่ปรึกษากิจการด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่เพิ่งออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่ผ่านมาให้มาดูแลงานด้านนโยบายสาธารณะของบริษัท

ส่วนผู้บริหารบริษัทอัลโคได้แจ้งแก่ผู้ถือหุ้นว่า บริษัทได้ดำเนินการเจรจากับรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ และสมาชิกสภาคองเกรสเพื่อหาทางยกเลิกมาตรการขึ้นภาษีอลูมิเนียมนำเข้าหรือไม่เช่นนั้นก็จะพยายามขอรับการยกเว้นมาตรการขึ้นภาษีอลูมิเนียมนำเข้าจากแคนาดา เพราะหากไม่เช่นนั้น บริษัทจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นถึง 14 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 420 ล้านบาทต่อเดือน

ทีมต่างประเทศ

CR:CNBC.COM