ผลศึกษา เผยทาสยุคใหม่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีมากกว่าที่หลายคนคิด

19 กรกฎาคม 2561, 20:22น.


ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายแอนดรูว์ ฟอร์เรสต์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิวอล์กฟรีฟาวน์เดชัน องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของออสเตรเลีย เปิดเผย ผลการศึกษาเรื่องดัชนีชี้วัดทาสยุคใหม่ทั่วโลกว่าจำนวนทาสยุคใหม่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร มีมากกว่าที่หลายคนคิด มูลนิธิฯ เผยแพร่รายงานประจำปีในวันนี้ หลังการทำวิจัยเรื่องนี้ร่วมกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ มีการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นและสัมภาษณ์กลุ่มประชากรตัวอย่างราว 7 หมื่นคนใน 48 ประเทศทั่วโลก ระบุว่า ในปัจจุบันมีทาสทั่วโลกราว 40.3 ล้านคน



ในจำนวนนี้เป็นทาสยุคใหม่ราว 403,000 คนในสหรัฐฯ หรือ 1 ในพลเมืองอเมริกันทุกๆ 800 คน มีชีวิตอยู่ในสภาพเหมือนทาส นับว่าสูงกว่าที่หลายคนคิดไว้ในตอนแรกราว 7 เท่า ส่วนในอังกฤษ มีทาสยุคใหม่ราว 136,000 คน หรือสูงกว่าตัวเลขที่คิดไว้ตอนแรกเกือบ 12 เท่า ตัวเลขนี้สวนทางกับข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลอังกฤษที่ระบุว่าอาจจะมีทาสยุคใหม่ระหว่าง 10,000-13,000 คนในอังกฤษในปี 2556 นอกจากนี้ ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าทาสยุคใหม่ในประเทศอื่นๆรวมถึงออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์และประเทศอื่นๆในยุโรปก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดแยกเป็นรายประเทศ ระบุว่าในภาพรวมของทั่วโลก ประเทศที่มีทาสยุคใหม่มากที่สุดในโลกคือเกาหลีเหนือคือราว 2.6 ล้านคนหรือ 1 ในแรงงานทุกๆ 10 คน รองลงมาคือเอริเทรีย,บุรุนดี, สาธารณรัฐแอฟริกากลางและอัฟกานิสถาน



สำหรับคำว่าทาสยุคใหม่ มูลนิธิวอล์กฟรีฟาวน์เดชัน ให้คำจำกัดความว่า หมายถึงการเอารัดเอาเปรียบในลักษณะที่บุคคลไม่อาจจะขัดขืนหรือหลบหนีให้พ้นเนื่องจากถูกข่มขู่คุกคาม,การใช้ความรุนแรง,การขืนใจ,ใช้อำนาจในทางมิชอบหรือการถูกล่อลวง นอกจากนี้ รวมถึงกรณีการถูกล่วงละเมิดทางเพศ บังคับใช้แรงงาน การใช้แรงงานเด็กและการบังคับแต่งงาน



ทีมต่างประเทศ



CR:CNN



 

ข่าวทั้งหมด

X