ปธ.กกต.ขอให้ส่งหลักฐาน หากพบการทาบทามเข้าพรรคแลกผลประโยชน์/โพลล์พบชาวพุทธเข้าวัดมากขึ้นวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาปีนี้

19 กรกฎาคม 2561, 19:00น.


+++กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ส่งคำร้องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติ  นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัยแล้ว แต่ยังไม่ได้นัดว่าจะพิจารณาคดีเมื่อใด ขณะนี้ถือว่าหมดหน้าที่กกต.แล้ว



+++ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตร นายศุภชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีคำร้องเรียนของนายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นคำร้องเข้ามา กกต.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เบื้องต้นต้องเข้าใจว่าทุกคนที่จะจัดตั้งพรรคการเมืองสามารถหาผู้ร่วมก่อตั้งได้ ไม่เป็นความผิด เนื่องจากจะหาคนให้ได้ 500 คนตามกฎหมายก็ต้องไปชักชวน แต่มีข้อแม้ว่าการชักชวนบุคคลให้เข้ามาร่วมพรรคการเมืองต้องไม่เสนอให้สัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค เพราะเป็นความผิดตามมาตรา 30 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ส่วนผู้ถูกชักชวนก็ต้องไม่รับหรือเรียกรับ เพื่อไปเป็นสมาชิกเพราะมีความผิดตามมาตรา 31 ของกฎหมายเดียวกัน  แต่ขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่าการทาบทามมีการเสนอหรือสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทน แต่ กกต.ก็กำลังตรวจสอบ ถ้าใครมีหลักฐาน ให้ส่งมาที่ กกต.



+++ผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาปีนี้ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประชาชนจะทำบุญและเดินทางท่องเที่ยวกว่า 6,477 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 4.1 ส่วนใหญ่วางแผนท่องเที่ยวและทำบุญในช่วงวันหยุด ทั้งการตักบาตร ทำบุญ ทำทาน ถวายสังฆทาน และเวียนเทียน โพลครั้งนี้บ่งชี้ว่าประชาชนเข้าใกล้วัดมากขึ้น และจับจ่ายใช้สอยเพื่อการทำบุญมากขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประชาชนวางแผนจับจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประชาชนในต่างจังหวัด ที่พึ่งพาราคาสินค้าเกษตรเป็นหลัก ส่วนใหญ่วางแผนจับจ่ายเท่าเดิม และการใช้จ่ายเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มคึกคักน้อยลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ใช้จ่ายมากในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกไปแล้ว แต่การใช้จ่ายเพื่อการทำบุญยังคงเพิ่มขึ้น เห็นได้จากกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตอบว่าเพิ่มจำนวนชิ้นในการซื้อของเพื่อกิจกรรมทำบุญ



+++ทรรศนะของผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจไทยขณะนี้กำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ และมองว่าน่าจะดีขึ้นเต็มที่ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2562 จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทำให้ศูนย์พยากรณ์จะปรับประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ในช่วงกลางเดือนส.ค.นี้ จากกรอบเดิมอยู่ที่ร้อยละ 4.2-4.6 แต่ตัวเลขใหม่มีโอกาสเติบโตร้อยละ 4.5-5 โดยจะนำประเด็นสงครามการค้าและปัญหาเรือล่มที่ภูเก็ตของนักท่องเที่ยวชาวจีนนำมาประกอบการวิเคราะห์ว่าจะมีผลต่อการค้าและการท่องเที่ยวของไทยหรือไม่



+++ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยรายงานวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียปี 2561 ฉบับล่าสุดในส่วนของประเทศไทยว่า เอดีบี ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจของไทย คาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนจากเดิมร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 4.2 ในปี 2561 แต่ยังคงประมาณการเศรษฐกิจของปี 2562 ไว้เหมือนเดิมที่ร้อยละ 4.1 มาจากการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสแรกของปี เป็นผลจากการขยายตัวของทั้งการบริโภค การลงทุน และการส่งออก  



+++นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี  กล่าวว่า แม้ว่าความตึงเครียดทางการค้าจะยังคงเป็นข้อกังวลหลักสำหรับภูมิภาค แต่มาตรการปกป้องทางการค้าที่ดำเนินการในปี 2561 ยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการนำเข้าของประเทศเอเชียกำลังพัฒนา การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและการคลังอย่างระมัดระวังจะช่วยให้เศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาคเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกได้ ซึ่งส่งผลให้การเติบโตของภูมิภาคยังคงแข็งแกร่งต่อไป



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้น 11.04 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,646 จุด มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 42,436.68 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลบ 29.51 จุด ปิดที่ 22,764.68 จุด ดัชนีขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจาก นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งได้สกัดแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนตลาดหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้

+++ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง ลดลง 106.56 จุด ปิดที่ 28,010.86 จุด เนื่องจาก นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวบดบังผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯ รวมถึงรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจยังคงขยายตัวปานกลาง

+++บีบีซี รายงานอ้างสมาคมสื่ออังกฤษว่า ตำรวจทราบตัวกลุ่มคนร้ายที่วางสารพิษโนวิชอคเพื่อฆ่านายเซอร์เก สกริปาล อายุ 66 ปี อดีตสายลับชาวรัสเซียและลูกสาวคือน.ส.ยูเลีย อายุ33 ปี ในเมืองซาลิสบิวรีทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษเมื่อวันที่ 4 มีนาคม แม้ว่าผู้เสียหายทั้งสองคนจะออกจากโรงพยาบาลแล้วหลังร่างกายเริ่มแข็งแรงตามปกติ แต่ตำรวจเชื่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นพลเมืองชาวรัสเซีย โดยตำรวจทราบตัวคนร้ายจากการตรวจสอบหลักฐานต่างๆเช่น กล้องซีซีทีวีในที่เกิดเหตุ ประกอบกับข้อมูลคนเข้าเมืองในระยะเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุ



+++ต่อมานางดอน สเตอร์เกส อายุ 44 ปี เสียชีวิตเมื่อต้นเดือนนี้ หลังถูกวางสารพิษชนิดเดียวกันในเมืองอเมสเบอร์รี่  ไม่ห่างจากเมืองซาลิสบิวรี ส่วนแฟนของเธอคือนายชาร์ลี โรว์ลี อายุ 45 ปี ถูกวางสารพิษในสถานที่และวันเดียวกันคือเมื่อ 30 มิถุนายน ขณะนี้ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อาการป่วยยังไม่พ้นขีดอันตราย ตำรวจเชื่อว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้มีความเชื่อมโยงกัน รัฐบาลอังกฤษ กล่าวหา รัสเซียว่าอยู่เบื้องหลัง แต่รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นว่าไม่มีมูลความจริง โดยนายอเล็กซานเดอร์ ยาโกเวนโก เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอังกฤษ เปิดเผยว่า มีแต่รายงานทางสื่อในอังกฤษ เพิ่มเติมว่า รัฐบาลรัสเซีย ยังไม่เคยได้รับผลสอบสวนที่เป็นทางการจากรัฐบาลอังกฤษ



แฟ้มภาพ 



 



 



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X