สนช.รับหลักการร่างพรบ.มาตรฐานสินค้าเกษตร เน้นความปลอดภัย เพื่อการส่งออก

19 กรกฎาคม 2561, 12:51น.


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนาย สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม วันนี้ที่ประชุมมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเพียง 1 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นผู้เสนอ โดยล่าสุดที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่ 1 เห็นชอบรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตรไว้พิจารณาด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 186 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 3 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯ จำนวน 15 คน กำหนดเวลาแปรญัตติ 7 วัน ระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน



นาย ลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะตัวแทนครม. ผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติ ได้กล่าวขอบคุณที่ประชุมที่รับร่างพระราชบัญญัติไว้พิจารณา ยืนยันว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร โดยร่างดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติเดิมที่ไม่ได้ถูกปรับปรุงมานานจนไม่ทันต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน มีจุดมุ่งเน้นช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศ ซึ่งการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติจะมีการกำหนดให้สินค้าเกษตรต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานบังคับ ทั้งการออกใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต, ส่งออก และนำเข้าสินค้าเกษตร ตลอดจนมีบทลงโทษควบคุม เป็นต้น



ด้านสมาชิกสนช.ส่วนใหญ่ เช่น นาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์, นาย กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ และนาย มณเฑียร บุญตัน ต่างก็เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัตินี้ พร้อมกล่าวชื่นชมรัฐบาลที่ออกกฎหมายช่วยเกษตรกร





นาย กิตติศักดิ์ ระบุว่า เห็นด้วย แม้อาจจะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุก็ตาม แต่เชื่อว่าจะช่วยควบคุมการส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรกรได้ดีขึ้น แต่ก็ขอฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ว่าการทำงานในแต่ละหน่วยงานจะต้องมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันให้มากขึ้น ด้านนาย มณเฑียร กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลบางชุดส่งเสริมการเร่งการผลิตสินค้าเกษตร โดยไม่สนใจความปลอดภัย จนเป็นการส่งเสริมการใช้สารเคมีที่อันตราย ทั้งนี้ในร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ก็มีข้อสังเกตว่า ควรจะมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และสงสัยว่าการนำเข้าสินค้าการเกษตรจะมีการตรวจสอบเช่นไรว่าสินค้าจะปลอดภัยต่อผู้บริโภคในประเทศ หวังว่าในการพิจารณาขั้นต่อไปในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จะมีการแก้ไขรายละเอียดให้ครอบคลุมมากขึ้น



วันนี้ที่ประชุมยังมีวาระพิจารณารับทราบรายงานผลการดำเนินงานหลายรายงาน เช่น รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี2560 และรายงานผลการปฏิบัติงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2560 ด้วย

ข่าวทั้งหมด

X