รวบกลุ่มหลอกหลวงนักท่องเที่ยว-ร้านค้า8ราย

ความเคลื่อนไหวของ กลุ่มขบวนการหลอกลวงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมตามสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานคร และให้ข้อมูลเป็นเท็จ เช่น วัดปิด-วังปิด เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวไปเที่ยวสถานที่อื่น และพาไปซื้อสินค้าบริการประเภทเครื่องประดับ ตัดชุดสูท ซื้อโปรแกรมทัวร์ ซึ่งราคาสูงกว่าราคาทั่วไปและไม่ได้คุณภาพ  ล่าสุด พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมกำลังตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สน.ชนะสงคราม และสน.พระราชวัง ร่วมกันสืบสวนขยายผล จนสามารถจับกุมผู้ร่วมกระบวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับการขายสินค้าและบริการ คือกลุ่มไซ้แขกที่หลอกลวงนักท่องเที่ยว และกลุ่มตุ๊กตุ๊ก(สามล้อเครื่อง) เพื่อขยายผลไปยังร้านค้าที่ขายสินค้าและบริการ ทั้งประเภทร้านเครื่องประดับ ร้านตัดสูท และร้านขายบริการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 8ราย แบ่งเป็นกลุ่มกระบวนการที่ร่วมมือกันหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จำนวน 3 ราย  และดำเนินคดีกับร้านค้าที่มีพฤติกรรมหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว จำนวน 5 ราย คือ

- จับกลุ่มหลอกลวงเพื่อขายเครื่องประดับ (Jewelry Scam) ร้าน S&J Export (ชื่อเดิม ร้านมณีไทย) ดำเนินคดีในฐานความผิดอั้งยี่ ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 7ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท รวมทั้งดำเนินคดีกับกลุ่มที่มีพฤติกรรมในการติดต่อชักชวนนักท่องเที่ยวอีกจำนวน 6คน

- จับกลุ่มหลอกลวงเพื่อตัดสูท (Tailor Scam) จำนวน 5ร้านค้า ร้านเทเวศร์ แฟชั่น, ร้านเจมส์ แฟชั่น, ร้านบีบี แฟชั่น, ร้านราม แฟชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล, และร้านวาสนา ดำเนินคดีในความผิดฐาน “ ขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่ติดฉลาก” ตามมาตรา 30 พรบ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 “ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายซื้อหรือรับไว้ โดยประการใดอันของตนเพิ่งรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้ผ่านพิธีทางศุลกากร” สามารถตรา 246 พรบ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 “ ขายของโดยหลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อ ในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ” ตามมาตรา 271 ประมวลกฎหมายอาญา และ “ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโฆษณา หรือใช้ฉลาก ที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้ หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด” ตามมาตรา 47 พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค โดยตรวจยึดสินค้าประเภทม้วนผ้าและเครื่องแต่งกายมูลค่ารวม 2,312,100 บาท

- จับกลุ่มหลอกลวงเพื่อนำเที่ยว (Travel Scam) บริษัท รอยัล แทรเวลลิ่ง จำกัด ดำเนินคดีฐานความผิดประกอบธุรกิจนำเที่ยว ไม่จัดให้มีการประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ตามมาตรา 34 เพราะระบอธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า หน้าวัด-หน้าวัง จะต้องไม่เหลือผู้กระทำผิด จะดำเนินการจับกุมให้หมด และดำเนินคดีอาญาต่อไป นอกจากนี้จะมีการตรวจเข้มในพื้นที่ ภูเก็ต พัทยา และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกด้วย รวมทั้งรถรับจ้างสาธารณะ หากพบว่าไม่กดมิเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติ จะดำเนินคดีทุกราย ทั้งการพักใช้ใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต ที่ได้มีการประสานงานกับกรมการขนส่งทางบก โดยประชาชนโทรแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตลอด 24ชั่วโมง หากพบผู้กระทำผิดซ้ำซากจะพิจารณาด้านการปกครอง ในการห้ามเข้าพื้นที่