ขนส่ง สั่งให้แท็กซี่-สามล้อเครื่อง จ่ายค่าปรับ ปฎิเสธผู้โดยสาร หน้าห้างแพลตินั่ม

06 มิถุนายน 2561, 19:05น.


ช่วงเย็นวันนี้ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแพลตินั่ม นายปริวัฏ เพชรอาวุธ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน หัวหน้าชุดตรวจการ 15 กองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันนี้ลงตรวจรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท โดยเฉพาะรถสามล้อ, รถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์ เนื่องจากบริเวณนี้ยังมีการร้องเรียนจากผู้โดยสารเป็นประจำว่ามีรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร และมีการจอดรถรับ-ส่งผู้โดยสารอย่างไม่เป็นระเบียบ ส่งผลต่อการจราจร





สำหรับรถแท็กซี่ นอกจากจะตรวจการปฏิเสธผู้โดยสารแล้ว ก็จะตรวจสภาพรถว่ามีการนำรถเข้าตรวจรอบมิเตอร์หรือไม่, ตรวจสภาพรถและส่วนควบต่างๆว่าถูกต้องและอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงตรวจเรื่องการชำระภาษี ส่วนคนขับรถก็จะตรวจการแต่งกาย และใบอนุญาตขับรถที่ต้องเป็นใบอนุญาตขับรถโดยสารสาธารณะเท่านั้น ส่วนรถสามล้อ ก็จะตรวจคล้ายๆกับรถแท็กซี่ ต่างกันเพียงแค่ไม่มีการตรวจรอบมิเตอร์ โดยในตัวรถ จะตรวจว่ามีการเสียภาษีหรือไม่, ตรวจแผ่นป้ายทะเบียนว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ ส่วนคนขับก็จะตรวจการแต่งกายที่ต้องเป็นเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีสุภาพ นอกจากนี้แล้วจะตรวจใบขับขี่ว่าเป็นใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะหรือไม่



 





ขณะที่รถจักรยานยนต์ จะเน้นตรวจการนำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่เป็นป้ายดำมาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งไม่สามารถนำมาวิ่งได้ เพราะผิดกฎหมายเกี่ยวกับประเภทการใช้รถ สำหรับการตรวจรถจักรยานยนต์ทั่วไป เจ้าหน้าที่จะตรวจเรื่องการแต่งกาย และใบขับขี่ว่าถูกต้องหรือไม่



โดยวันนี้ตรวจพบรถโดยสารสาธารณะทำผิดกฎหมายทั้งสิ้นจำนวน 5 คัน แบ่งเป็นรถสามล้อ 2 คัน และรถแท็กซี่ 3 คัน สำหรับรถสามล้อทั้งสองคัน พบว่า ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกคำสั่งให้ไปรายงานตัวและเสียค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบกภายในเวลา 7 วันนับแต่วันนี้ เช่นเดียวกับรถแท็กซี่ทั้ง 3 คันก็ได้ออกคำสั่งให้ไปรายงานตัวเเละเสียค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบกเช่นกัน เนื่องจากทั้ง 5 คันไม่ประสงค์จะเสียค่าปรับทันที โดยบางคันบอกว่าเป็นเพราะไม่มีเงินพอเสียค่าปรับ





สำหรับรถแท็กซี่ที่ตรวจพบว่าทำผิดกฎหมายในวันนี้ 1 คันพบว่าปฏิเสธผู้โดยสาร ส่วนอีกคันพบว่าติดฟิล์มกรองแสงทึบรอบคัน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย เพราะโดยปกติรถแท็กซี่ต้องติดฟิล์มโปร่งแสงทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ส่วนอีกหนึ่งคันพบว่าเป็นรถแท็กซี่เช่าที่หมดอายุการใช้งานไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 ไม่สามารถนำมาวิ่งได้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการถอดป้ายทะเบียนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้นำไปวิ่งอีก พร้อมออกคำสั่งให้นำรถไปขึ้นทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล





นายปริวัฏ ระบุว่า เฉลี่ยต่อการลงตรวจรถโดยสารสาธารณะหนึ่งครั้ง จะพบรถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารประมาณ 2-3 คัน ยอมรับว่าแม้พบรถแท็กซี่ ปฏิเสธผู้โดยสารน้อยลง แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรถแท็กซี่เห็นเจ้าหน้าที่ลงตรวจ จึงไม่กล้าปฏิเสธผู้โดยสาร





ขณะที่ สภาพการจราจรบริเวณหน้าห้างแพลตินั่มเมื่อช่วงหัวค่ำยังเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ เช่นเดียวกับฝั่งตรงข้ามที่เคลื่อนตัวได้ต่อเนื่องเช่นกัน



 



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X