กนง.คงดบ.ร้อยละ1.5 เตรียมปรับจีดีพีปีนี้สูงกว่าร้อยละ 4.1

หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการกนง. เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี (กรรมการ 1 ท่านลาการประชุม) หลังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและดีกว่าที่คาด แรงส่งจากทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว โดยจะรอติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 1/2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะประกาศในวันจันทร์นี้ หากออกมาดีกว่าที่คาดไว้ ก็มีแนวโน้มที่ กนง.จะปรับจีดีพีปีนี้ขึ้นจากที่เคยคาดการณ์ว่าจะโตที่ร้อยละ 4.1 

ส่วนความผันผวนของเงินบาทยังมีโอกาสเกิดขึ้น จากปัจจัยต่างประเทศที่คาดเดายากและเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ อาทิ ผลกระทบจากมาตรการตอบโต้ทางการค้าสหรัฐ-จีน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ซึ่งอาจกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมที่แตกต่างกันต่อภาคธุรกิจของไทย โดย กนง.ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและรอประเมินผลในการประชุมครั้งหน้า 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยในเดือนเมษายนอยู่ที่ร้อยละ 1.7 เข้าสู่กรอบล่างที่ กนง.ประเมินไว้ จากราคาน้ำมันที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังต้องติดตามราคาอาหารสดที่ยังมีความผันผวนสูง ทั้งปียังคงอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ร้อยละ1

สำหรับอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์จะดีขึ้น แต่ยังกระจายตัวไม่ทั่วถึง โดยหนี้ครัวเรือนยังเป็นปัจจัยกดดันการบริโภค ทำให้นโยบายการเงินยังต้องผ่อนคลายอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้ว่าประเทศอื่นจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม เนื่องจากนโยบายการเงินของไทยควรคำนึงถึงเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก ส่วนเรื่องของเงินทุนเคลื่อนย้าย ยอมรับว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินทุนไหลออกจากทั้งตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยในระดับปานกลาง หากเทียบกับประเทศเกิดใหม่ ซึ่งประเทศไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงไม่เป็นแรงกดดันมากนัก