ชาวบ้านรักษ์คลองบางพระ จ.ตราด ร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน

ตามแผนงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด (สอจร.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ดำเนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับชุมชนในหลายพื้นที่ โดยครั้งนี้ได้ลงพื้นที่ ชุมชนรักษ์คลองบางพระ อ.เมือง จ.ตราด เป็นต้นแบบชุมชนที่สามารถสร้างความปลอดภัย ให้เป็นรูปธรรมจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ทั้งหมด รวมกว่า 670 ครัวเรือน ประชากรกว่า 1,920คน ที่หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เส้นทางสัญจรมีความปลอดภัย น่าอยู่ ทั้งคนในชุมชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ด้วยความร่วมมือของคณะกรรมการขับเคลื่อนงานป้องกันอุบัติเหตุภายในชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่กู้ภัย และชาวบ้านในชุมชน

นายวินิต นิรันต์พานิช รองประธานชุมชนรักษ์คลองบางพระ กล่าวว่า เครือข่ายคณะทำงาน สอจร.ขับเคลื่อนภาคประชาชนเข้าปีที่3แล้ว ให้เป็นถนนสายวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวให้ปลอดภัย การเกิดอุบัติเหตุมักเกิดกับเด็ก เยาวชน และผู้สูงวัย ที่ถูกรถเฉี่ยวชน ส่วนเด็กเวลาไปโรงเรียน มักใช้รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ กรรมการชุมชนจึงคิดว่า อุบัติเหตุเหล่านี้ไม่น่าเกิดกับคนในชุมชนจึงหันมาทำแผนร่วมกันเพื่อให้เกิด “ถนนปลอดภัยในชุมชน รักษ์คลองบางพระ” นำร่องด้วยโครงการ “ลดละเลิกการดื่มแอลกอฮอล์” เพราะคนเมาแล้วขับ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุ รวมทั้งเข้มงวดใช้กฎหมายจำกัดความเร็ว ในถนนชุมชนไม่เกิน 30กม./ชม. ผู้ขับขี่และคนซ้อนจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัย ส่วนรถยนต์ ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย สร้างกติกากับคนในชุมชน บังคับคนนอกชุมชนที่ผ่านเข้ามาในชุมชนต้องปฎิบัติตามด้วย ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎจราจรต้องมาทำงานช่วยเหลือสังคม นอกจากนี้ยังมีกติกาห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ ให้ดื่มเฉพาะในบ้าน

สำหรับร้านค้าที่มีใบอนุญาตสามารถจำหน่ายสุราได้ในเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ส่วนในช่วงเทศกาลมีกำหนดห้ามจำหน่าย ที่สำคัญมีการหารือกับร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น ก่อนจะเข้ามาเปิดในชุมชน ว่าขอไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย และในปีนี้จะใช้มาตรการขับขี่ปลอดภัยกับสถานศึกษา 2 โรงเรียน 1 วิทยาลัย เพื่อขยายผลการทำงานต่อไป

ร.ต.อ.กิตติศักดิ์  แก่นมั่น รองสารวัตรจราจร สถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ระบุว่า ด้านการบังคับใช้กฎหมายที่นี่ดำเนินการอย่างเข้มงวด แต่ด้วยชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนส่วนมากปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้เป็นผลสำเร็จในการลดสถิติของอุบัติเหตุ และผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ฝ่าฝืนมักเป็นคนต่างพื้นที่ที่เข้ามาใช้ถนนชุมชนเป็นทางลัดเลี่ยงรถติดบนถนนเส้นหลัก ส่วนชาวบ้านในชุมชนที่ประกอบธุรกิจที่พัก ให้การยืนยันว่าที่ชุมชนมีการเข้มงวดวินัยจราจรมาก และตนเองก็ยินดีปฎิบัติตามตลอด โดยเฉพาะใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แล้วไม่ใส่หมวกก็จะทำให้เป็นอันตรายกับศีรษะถึงขั้นเสียชีวิตได้

ผู้สื่อข่าว:วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์