อบจ.ตราด เร่งผลักดันถนนปลอดภัยช่วงโค้งหน้าวัดบุปผาราม มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

การลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนนระดับชุมชน ตามแผนงานสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด (สอจร.) ที่จังหวัดตราด

วันนี้(13พ.ค.61) เป็นการสำรวจเส้นทางออกจากตัวเมือง 2กิโลเมตร เข้าสู่ถนนปลายคลอง ต.บางกระแจะ อ.เมือง มายังวัดบุปผาราม(วัดปลายคลอง) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยอยุธยา อายุราว 365ปี เป็นที่ศรัทธาของคนทั้งในจังหวัดตราด และประชาชนโดยทั่วไป ทำให้ในช่วงเทศกาล และวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะมีประชาชนเดินทางมาที่วัดอย่างต่อเนื่อง สำหรับถนนปลายคลอง เป็นถนนสายรอง 2ช่องจราจร กว้าง 6เมตร ที่มีความเสี่ยง ลักษณะเป็นโค้งตัวเอส (S) ขึ้น-ลงเนิน โดยชาวบ้านในพื้นที่ ที่อาศัยในละแวกนี้มากว่า 20ปี เปิดเผยว่า ช่วงทางโค้งลงจากหน้าวัดบุปผาราม มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2ครั้ง ยิ่งถ้ามีฝนตกก็จะทำให้รถลื่นไถลลงข้างทาง หนักสุดคือผู้ขับขี่ขับมาด้วยความเร็ว พอเจอทางลงเนินที่เป็นทางโค้ง ก็จะหลุดโค้ง ชนเข้าที่เสาไฟฟ้า หรือรั้วบ้านข้างทาง ส่งผลให้บาดเจ็บสาหัสมาแล้วหลายราย

ชาวบ้านยังระบุว่า จุดนี้ช่วงกลางคืนจะมืดมาก ไฟส่องสว่างมีน้อย หากรถนอกพื้นที่ไม่ชินเส้นทางมาใช้ ก็จะเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ ปัจจุบันเวลาได้ยินเสียงเหตุแต่ละครั้งก็กังวล กลัวว่ารถจะพุ่งเข้ามาถึงบ้านตน แม้แต่เสาไฟฟ้าต้นที่เคยถูกรถชนก่อนหน้านี้ ก็ยังมีร่องรอยหลงเหลืออยู่ ห่างจากบ้านตนไปเพียง 2หลังคาเรือนเท่านั้น

นายปรีชาวิชญ์  ฉิมผกา สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด (เขต อ.เมือง) กล่าวว่า สำหรับถนนปลายคลองสร้างมาประมาณ 30ปี ใช้เป็นเส้นทางสัญจรเลี่ยงเมืองไปสู่ถนนสุขุมวิท มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ วัดบุปผาราม โดยช่วงโค้งหน้าวัดจะเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง  ในขณะนี้องค์การบริหารส่วนจ.ตราด ได้มีแผนปรับปรุงถนนเส้นนี้ ซึ่งผ่านประชาคมหมู่บ้านแล้ว และอยู่ในแผนพัฒนาจังหวัด 3ปี คาดว่าหลังผ่านการเห็นชอบจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ก็จะดำเนินการปรับปรุงถนนเส้นนี้ได้ทันที ด้วยการขยายไหล่ทาง2ฝั่ง ฝั่งละ 2เมตร ตีผิวการจราจร แก้ไขตามหลักวิศวกรรมจราจร และเพิ่มไฟส่องสว่าง เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้มีการให้ความรู้แก่ชาวบ้านในการขับขี่ให้ปลอดภัย แม้จะเป็นถนนเส้นรองตามชุมชนก็ตาม เช่น สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่ ทั้งคนขับ และคนซ้อน รวมทั้งการใช้ความเร็วให้เหมาะสม ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี เพราะทุกคนเข้าใจว่าต้องขับขี่อย่างไรให้ตนเองปลอดภัย ไม่ใช่ทำไปเพียงป้องกันไม่ให้ถูกตำรวจจับเท่านั้น สำหรับผู้ที่จะมาท่องเที่ยวที่นี้ชาวบ้านฝากประชาสัมพันธ์ว่าให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เชื่อป้ายเตือนข้างทาง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในจุดนี้

วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์ ผสข.