จ.กาฬสินธุ์ ตั้งศูนย์ประสานรับศพผู้เสียชีวิตอุบัติเหตุที่วังน้ำเขียว

22 มีนาคม 2561, 10:27น.


การติดตามความคืบหน้าอุบัติเหตุรถทัวร์2ชั้น จาก ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หมายเลขทะเบียน 30-0161 กาฬสินธุ์  ไปท่องเที่ยว จ.จันทบุรี กำลังเดินทางกลับเสียหลักข้ามแบริเออร์  ชนต้นไม้ และเพิงข้างทางพลิกคว่ำ บริเวณทางหลวงหมายเลข 304 โค้งมะกรูดหวาน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ร.ต.ท.จิรวัฒน์ ประยูรพันธ์ รองสารวัตรสอบสวนสภ.อุดมทรัพย์ จ.นครราชสีมา เพิ่มเติมเหตุการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จะเดินทางมาตรวจในจุดที่เกิดเหตุ เจ้าของรถแจ้งว่า คนขับชื่อ นายกฤษณะ จุฑาชื่น เจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัว ถ้าคนขับหลบหนีจริง ตำรวจก็จะออกหมายจับต่อไป โดยจะต้องดูลักษณะการขับขี่ด้วย ถ้าสภาพรถไม่ดี คนขับก็ต้องรับผิดชอบ มีประชาชนที่เป็นพยานบอกเล่าว่า เห็นคนบาดเจ็บ วิ่งหนีไปจากที่เกิดเหตุ ชาวบ้านบอกให้หยุดก็ไม่หยุด เอารูปพรรณสัณฐานให้ดู ชาวบ้านยังไม่แน่ชัด แต่ก็คล้ายๆ ว่าใช่ นายกฤษณะ ยังมีศพหนึ่ง ที่ยังระบุตัวตนไม่ได้ คาดว่า เจ้าของรถจะเดินทางมาถึงอีก 3 ชม. จะมีความผิดทางแพ่งด้วย



นายศิระ บุญธรรมกุล ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่ง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พร้อมกับผู้ว่าฯ จ.นครราชสีมา ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ในส่วนรถทัวร์ที่เกิดเหตุ ระงับการใช้ใบอนุญาตบริษัทรถทัวร์ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่คุ้มครองประกันภัย เข้ามาดูแลญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้ว ทราบล่าสุดเสียชีวิต 18 ศพ ยังไม่สรุปว่า ผิดอย่างไรบ้าง ภาษี และประกันภัย ถูกต้องตามเกณฑ์ กรมการขนส่งทางบก ผู้รับใบอนุญาตที่ดูแลรถทัวร์ จะต้องอบรมเรื่องการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ควรจะต้องมีการแก้ไขปัญหาฉับพลัน



ด้านนายกฤษฎา มะลิซ้อน ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า เจ้าของรถชื่อนางพัน เลิศสหพันธ์ ชื่อบริษัทที่ชื่อกันเองทัวร์ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมา มีรถทัวร์อยู่ในความดูแล 3 คัน มีรถ 2 ชั้น 2 คัน รถชั้นเดียว 1 คัน ประกอบการรถเช่าเหมาเที่ยวอย่างเดียว รถคันที่เกิดเหตุ จดทะเบียนเมื่อ 23 ส.ค.2555 และมีการตรวจสภาพเป็นประจำทุกปี ล่าสุดตรวจสภาพเมื่อ 30 มิ.ย.2560 ซึ่งก็เป็นไปตามกฏเกณฑ์ รถคันนี้มีที่นั่ง 46 ที่นั่ง ทราบเบื้องต้น คณะนี้เดินทางไปเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. ไปเที่ยว จ.จันทบุรี และเดินทางกลับจนมาเกิดอุบัติเหตุ ผู้ว่าฯ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการที่เทศบาลตำบลหลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และประสานงานเรื่องการนำผู้เสียชีวิตกลับมาที่ จ.กาฬสินธุ์ ในส่วนขนส่ง ถ้าพบรถที่ใช้แล้วไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งได้ตลอดเวลา ปกติรถทัวร์ รวมทั้งคันนี้ มีGPS แทร็คกิ้ง จับความเร็วได้ 83 กม./ชม. ซึ่งก็อยู่ในกำหนด และควรที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย



นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายเพื่อถนนปลอดภัย (ศวปถ.) เรื่อง การป้องกันเมื่อเกิดเหตุกับรถทัวร์ ว่าจากการตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุ เป็นทางลงลาดชัน คิดว่า แรงดันของลมหมด จนเกิดอาการเบรคแตก โดยคนขับจะต้องเคารพ ป้ายจราจร และกฎหมายจราจรทั้งหมด ซึ่งคนขับ จะต้องทราบว่า ขับรถใหญ่ มาใช้เส้นทางลาดชัน รวมทั้งผู้โดยสารก็ต้องทราบ ถึงความเสี่ยง เมื่อใช้รถ 2 ชั้น ซึ่งรถ 2 ชั้น จะมีความเสี่ยงมากกว่ารถชั้นเดียว ถึง 6 เท่า ถ้าทัวร์ยังยืนยันว่า จะใช้รถ 2 ชั้น ก็ควรจะใช้ทางราบจะดีกว่า หรือไม่ก็ต้องตรวจสอบเรื่องการทรงตัวของรถด้วย ถ้ารถทัวร์ โครงสร้างแข็งแรง โครงสร้างชั้นล่างจะดีกว่า แล้วช่วงที่เกิดเหตุมีการวิ่งลงมาชั้นล่าง อาจทำให้รถเสียการทรงตัวมากขึ้น ซึ่งถ้าลงมาแล้ว ก็ต้องควรคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย



 



CR:ศิวัฒน์ E20WTD



 

ข่าวทั้งหมด

X