ปธน.เปรู ลาออกหลังถูกโจมตีเรื่องรับสินบน/หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย/รถบัสในฟิลิปปินส์ พลิกคว่ำตกลงไปในเหว เสียชีวิต 19

+++นายเปโดร ปาโบล กูชินส์กี อดีตนายธนาคารแห่งวอลล์สตรีทวัย 79 ปี กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ว่า ขอลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งเปรู หลังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องว่ามีความสัมพันธ์กับโอเดเบรชท์กลุ่มบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ของบราซิล โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการรับสินบน แต่การลาออกจากตำแหน่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ เพราะไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นอุปสรรคสำหรับประเทศที่ต้องเผชิญกับความผันแปรในช่วงที่ผ่านมา นายกูชินส์กี เคยรอดจากการถูกลงมติถอดถอนในที่ประชุมรัฐสภาด้วยความผิดในข้อหาร้ายแรงเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

+++รองประธานาธิบดีมาร์ติน วิซคาร์รา ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เอกอัครราชทูตเปรูประจำแคนาดา คาดว่า จะกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเปรู เพื่อไม่ต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ มีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางว่าเกิดความแตกแยกในกลุ่มการเมืองต่างๆ กระแสกดดันเพื่อให้ประธานาธิบดีกูชินส์กี ลาออกจากตำแหน่งมีขึ้น หลังฝ่ายค้าน กล่าวหาว่า ประธานาธิบดีกูชินส์กี พยายามซื้อเสียงสมาชิกรัฐสภาก่อนที่เขาจะถูกลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งในที่ประชุมรัฐสภา

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างสหภาพแรงงานซีจีทีของฝรั่งเศสว่า การประลองกำลังกันระหว่างแรงงานรถไฟกับรัฐบาลประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ส่อเค้าว่าอาจจะยืดเยื้อไปอีกหลายเดือน คาดว่าจะกระทบการรถไฟและระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆทั่วประเทศ หลังแกนนำสหภาพแรงงานพูดเป็นนัยว่า พวกเขาอาจจะนัดหยุดงานประท้วงเรื่อยไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมยกเลิกแผนปฏิรูปองค์กรของบริษัทเอสเอ็นซีเอฟ วิสาหกิจการรถไฟของรัฐบาล โดยเฉพาะแผนปรับโครงสร้างองค์กร เนื่องจาก มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก การยกเลิกระบบการจ้างงานตลอดชีวิตจนกว่าจะเกษียณอายุ การขึ้นค่าจ้างทุกปีแบบอัตโนมัติและสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับบำเหน็จบำนาญต่างๆ

+++การประท้วงที่สหภาพแรงงานกำหนดไว้คือ 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนนี้เป็นต้นไป มีแผนจะนัดหยุดงานประท้วงสัปดาห์ละ 2 วัน จะประท้วงไปจนครบ 3 เดือน แต่ล่าสุดแกนนำสหภาพแรงงานซีจีที แจ้งให้เพื่อนร่วมงานทราบว่า อาจจะนัดหยุดงานประท้วงต่อเนื่องไปอีกหลายเดือนหลังครบกำหนดการประท้วงเดิม 3 เดือนแล้ว ครั้งนี้จะเป็นการประท้วงครั้งล่าสุด นับตั้งแต่นายมาครง เข้ามาบริหารประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังการให้คำมั่นต่อประชาชนว่าจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ

+++นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คนใหม่ เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ร้อยละ 0.25 ตามที่คาดหมาย ไปอยู่ที่ร้อยละ 1.50-1.75 เฟด อ้างว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตแข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และคาดว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2020 เนื่องจาก เฟด คาดหมายว่าเศรษฐกิจจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้และปีหน้า

นายพาวเวลล์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ มองแนวโน้มของสงครามการค้าเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ ไม่ได้เจาะจงว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่  

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยและชี้ถึงแนวโน้มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามหลังมาตรการปรับลดภาษี ดาวโจนส์ ลดลง 44.96 จุด ปิดที่ 24,682.31 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.01 จุด ปิดที่ 2,711.93 จุด แนสแดค ลดลง 19.02 จุด ปิดที่ 7,345.29 จุด เบื้องต้น ถ้อยแถลงของเฟด บ่งชี้ว่า ยังไม่มีแผนเร่งรีบเรื่องนโยบายการเงิน  ช่วยทำให้หุ้นวอลล์สตรีทขยับขึ้น แต่ต่อมา ตลาดแกว่งตัวสู่แดนลบ หลังนายพาวเวลล์ พูดถึงความเสี่ยงต่างๆต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ รวมถึงภัยคุกคามจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลดลง

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล +++ราคาทองคำ ปิดบวกแรง หลังดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังเฟด ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,321.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++สมาชิกรัฐสภาของสิงคโปร์ ลงมติรับรองร่างกฏหมายว่าด้วยคำสั่งให้ระงับการติดต่อสื่อสารชั่วคราว โดยมีสาระสำคัญคือกำหนดให้ประชาชนในจุดที่เกิดเหตุร้ายแรง เช่น กรณีเกิดเหตุก่อการร้ายหรือเหตุคนร้ายบุกจับตัวประกัน ไม่ให้บันทึกภาพ หรือแชร์ภาพหรือคลิปวีดีโอ เกี่ยวกับบริเวณจุดเกิดเหตุ ผ่านสื่อออนไลน์ ห้ามเผยแพร่ทั้งข้อความตัวอักษรหรือเสียงพูด เกี่ยวกับเรื่องปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง

+++นอกจากนั้น หากเห็นว่ามีความจำเป็น รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของสิงคโปร์ มีอำนาจสั่งการให้บริษัทโทรคมนาคม ให้ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่เกิดเหตุด้วย มาตรการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายรับทราบความเคลื่อนไหวต่างๆของเจ้าหน้าที่จากสื่อออนไลน์ และป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายนี้มีโทษคือจำคุก 2 ปีหรือปรับ 2 หมื่นดอลลาร์สิงคโปร์หรือทั้งจำทั้งปรับ

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างทวีตเตอร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯว่า คนร้ายที่แอบนำกล่องพัสดุไปรษณีย์ไปวางไว้หน้าประตูบ้านของเป้าหมายเพื่อฆ่าเจ้าของบ้านในเมืองออสติน เมืองเอกของรัฐเท็กซัส เสียชีวิตแล้วในวันนี้ ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

+++นายไบรอัน แมนลีย์ ผู้บังคับการตำรวจเมืองออสติน แถลงว่า ตำรวจยังไม่ทราบชื่อคนร้าย เป็นเพียงชายผิวขาว อายุ 24 ปีเศษ ที่ตำรวจสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือลอบนำกล่องพัสดุไปรษณีย์บรรจุระเบิดไปวางไว้หน้าประตูบ้านเป้าหมาย 5 แห่งในเมืองออสตินเพื่อสังหารเจ้าของบ้าน ได้ก่อเหตุใช้วัตถุระเบิดฆ่าตัวตายในรถยนต์ของเขา เพื่อหนีความผิด ขณะตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐฯบุกประชิดเพื่อทำการจับกุม แรงระเบิดเป็นเหตุให้ตำรวจ 1 คนได้รับบาดเจ็บ

+++น.ส.อิเมลดา โตเลนติโน โฆษกหญิงกองบัญชาการตำรวจภูธรของฟิลิปปินส์ แถลงว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำบนถนนแล้วตกลงไปในเหวลึกข้างทาง หลังชนกับราวสะพานใกล้กับเมืองซาบลายันจังหวัดมินโดโร ทางตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาลงมาทางใต้ 195 กม. มีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ บาดเจ็บอีก 21 คน

+++จากคำบอกเล่าของพยานผู้รอดชีวิต ระบุว่า รถบัสกำลังเดินทางมายังกรุงมะนิลา แล้วคนขับรถบัสเสียการควบคุมรถ จนทำให้เกิดพลิกคว่ำและตกลงไปในเหวข้างทาง ตำรวจกำลังสอบสวนสาเหตุว่าเหตุใดคนขับรถบัสจึงเสียการควบคุม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเครื่องยนต์ขัดข้องหรือไม่ก็คนขับหลับใน อย่างไรก็ตาม คนขับรถบัสคันที่เกิดเหตุอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วย อุบัติเหตุทางรถยนต์ในฟิลิปปินส์ สาเหตุอาจเป็นเพราะรถยนต์ขาดการบำรุงรักษา และคนขับรถบัส ไม่ได้มีความชำนาญทั้งที่การขนส่งทางบกเป็นการสัญจรที่สำคัญของฟิลิปปินส์

CR:BBC