เฟด มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คนใหม่ เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ร้อยละ 0.25 ตามที่คาดหมาย ไปอยู่ที่ร้อยละ 1.50-1.75 เฟด อ้างว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตแข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และคาดว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2020 เนื่องจาก เฟด คาดหมายว่าเศรษฐกิจจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้และปีหน้า

นายพาวเวลล์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ มองแนวโน้มของสงครามการค้าเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ ไม่ได้เจาะจงว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือไม่  

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยและชี้ถึงแนวโน้มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามหลังมาตรการปรับลดภาษี ดาวโจนส์ ลดลง 44.96 จุด ปิดที่ 24,682.31 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.01 จุด ปิดที่ 2,711.93 จุด แนสแดค ลดลง 19.02 จุด ปิดที่ 7,345.29 จุด เบื้องต้น ถ้อยแถลงของเฟด บ่งชี้ว่า ยังไม่มีแผนเร่งรีบเรื่องนโยบายการเงิน  ช่วยทำให้หุ้นวอลล์สตรีทขยับขึ้น แต่ต่อมา ตลาดแกว่งตัวสู่แดนลบ หลังนายพาวเวลล์ พูดถึงความเสี่ยงต่างๆต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ รวมถึงภัยคุกคามจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลดลง

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำ ปิดบวกแรง หลังดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังเฟด ตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,321.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:www.bbc.com