ด.ญ.วัย 6 ขวบ นั่งเก้าอี้นายกฯเป็นคนแรก นายกฯ ร่วมงานให้เด็กๆ เติบโตอย่างมีคุณธรรม

13 มกราคม 2561, 11:00น.


บรรยากาศการจัดงานวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาล คึกคักตั้งแต่เช้า เวลา 08.00 น. ณ ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะจัดงานวันเด็กสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดให้เด็กเข้าไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ซึ่งในปีนี้มีเด็กให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตั้งแต่เวลา 07.30 น. โดยเด็กที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรกคือเด็กหญิง ฟาดิฬะ ลาตีฟี อายุ 6 ปี นักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนพึงรำลึก จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ จากการสอบถามเด็กหญิง ฟาดิฬะ ลาตีฟี ได้มาเที่ยวงานวันเด็ก ที่ทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับเด็กชายอะลา ลาตีฟี อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนท่าอิฐศึกษา จังหวัดนนทบุรี โดยคุณอาและพี่สาวเป็นคนพามาเที่ยว ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มาเที่ยวงานวันเด็ก ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยตื่นนอนตั้งแต่04.00น.เพื่อเตรียมตัวมาเที่ยวงานวันเด็ก และเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลในเวลา 7.00 น. ซึ่งเด็กทั้งสองคนมีความตั้งใจอย่างมากที่จะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก สำหรับความใฝ่ฝันโตขึ้นเด็กหญิง ฟาดิฬะ ลาตีฟี อยากเป็นคุณหมอรักษาคนไข้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ส่วนเด็กชายอะลา ลาตีฟี มีความสนใจด้านการเมืองอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เด็กทั้งสองคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ลุงตู่ สู้ ๆ อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีนาน ๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย





เมื่อช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เดินทางไปเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ที่กระทรวงศึกษาธิการ ๆได้จัดงานวันเด็กประจำปี 2561 ภายใต้หัวข้อ เด็กเอ๋ยเด็กดี สร้างเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีด้วยการเรียนรู้หน้าที่ของเด็กไทย ซึ่งในงานได้มีการจัดบูธและซุ้มต่างๆ จากหน่วยภาครัฐและเอกชนกว่า 200 บูธ เพื่อให้เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารมาแจกฟรีให้กับเด็กๆด้วย         





จากนั้นนายกฯ เดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 พร้อมชมการแสดงของเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ในการแสดงชุด ND Step forward ก้าวไปด้วยกัน...สร้างสรรค์เทคโนโลยี นายกฯ ได้พบปะกับเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ เด็กจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เด็กดีหรือเด็กกตัญญู และเด็กด้อยโอกาสหรือเด็กพิการ จำนวน 22 คน นายกฯ เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนนั่งเก้าอี้ทำงานนายกฯพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกร่วมกับนายกฯ สำหรับบรรยากาศการนั่งเก้าอี้ทำงานของนายกฯเป็นไปอย่างอบอุ่นโดยนายกฯพูดคุยสอบถามเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเองพร้อมกับให้คำแนะนำในการทำงานว่า ต้องมีความละเอียดรอบคอบเพราะตำแหน่งนายกฯ เป็นตำแหน่งที่สำคัญ เวลาจะลงนามหนังสืออะไรต้องอ่านให้ครบถ้วน ก่อนจะลงนามหนังสือต้องตรวจตราให้ดี เพราะถ้าผิดพลาดจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติ





นายกฯกล่าวให้กำลังใจเด็กพิการว่า ขอให้เด็กและเยาวชนอย่าท้อแท้ มีกำลังใจในการดำรงชีวิต และให้ยืนหยัดอยู่ในสังคมด้วยความภาคภูมิใจ สำหรับเด็กเก่ง และเด็กทั่วไป นายกฯ กล่าวชื่นชมขอให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อน และขอให้เป็นคนดีของพ่อแม่ เป็นคนดีของสังคม พร้อมขอให้ตั้งใจเรียน หมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอให้ก้าวทันเทคโนโลยี ให้เก่ง ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่าหยุดยั้งที่จะเรียนรู้ พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำให้เด็ก ๆ มีคุณธรรม กตัญญูต่อพ่อแม่และที่สำคัญต้องกตัญญูต่อประเทศด้วย





นายกฯ ฝากแง่คิดให้กับผู้เข้าร่วมงานว่า ปัจจุบันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องช่วยกันส่งเสริมบุตรหลานไปในทางที่เหมาะสม โซเชียลมีเดียในปัจจุบันนี้แพร่หลายและรวดเร็ว ชี้ให้เห็นว่ายุคนี้เทคโนโลยีสำคัญกับคนทุกคนในทุกสาขาอาชีพ แต่ทุกอย่างมีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย เราต้องช่วยกันดูแลบุตรหลานให้ใช้โซเชียลมีเดียไปในทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นโดยใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ต้องเกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตามวิสัยทัศน์ของประเทศ นั่นคือ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน



สำหรับในปีนี้มีเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศเขียนคำอวยพรปีใหม่ให้กับนายกฯ โดยได้นำมาจัดนิทรรศการไว้บริเวณตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกฯได้เขียนตอบขอบคุณ ระบุว่า  “เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 และวันเด็กปี 2561 ขอขอบคุณเด็ก ๆ และเยาวชนทุกคนที่ได้อวยพรปีใหม่กับนายก และได้มาร่วมงานวันเด็กพร้อมผู้ปกครองในวันนี้ มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ด้วยบรรยากาศ มิตรไมตรีต่อกัน และให้เห็นถึงความสุขที่ทุกคนได้รับทั้งในระยะเวลาที่ผ่านมาปีก่อน และปีใหม่นี้ และตลอดไป นายกฯ และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งรวมถึงเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ซึ่งต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ แข็งแรง เป็นคนดีและคนเก่งของประเทศไทย เพื่อพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน ด้วยรักและห่วงใยเสมอ”



 



CR:รัฐบาลไทย



ผู้สื่อข่าว:เทพดล สิงห์โต



 

ข่าวทั้งหมด

X