นายกฯ พอใจความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

ความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ หลังจากที่รัฐบาลเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความพอใจการแก้ไขปัญหา เนื่องจากมีการประมวลรายชื่อผู้ที่มีหนี้นอกระบบส่งให้ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อติดต่อลูกหนี้แต่ละรายมาเข้าสู่กลไกการแก้ปัญหา โดยล่าสุดได้นำร่องมอบเงินสินเชื่อรายย่อย หลังจากที่ได้ไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กับเจ้าหนี้แล้วใน 3 จังหวัด คือ นครราชสีมา สุพรรณบุรี และสงขลา รวม 4,324 ราย เป็นเงิน 193 ล้าน 3 แสน 3 หมื่นบาท นอกจากนี้ ธนาคารทั้ง 2 แห่งยังอนุมัติสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉินแก่ประชาชน เพื่อป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบวงเงินรายละ 50,000 บาท ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2560 รวม 180,898 ราย เป็นเงิน 1,831 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 81.31 ของวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2560 จำนวน 10,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสินเชื่อที่อนุมัติแก่ประชาชนทั่วไป 169,356 ราย เป็นเงิน 7,620 ล้านบาท และผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 จำนวน 11,542 ราย เป็นเงิน 510 ล้านบาท

นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้กระทรวงการคลัง เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง โดยทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ใช่การปลดหนี้ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เช่น การรับคำปรึกษา การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ การช่วยเหลือด้านสินเชื่อ และการฟื้นฟูศักยภาพและการหารายได้ เพราะที่ผ่านมาหลายคนต้องการขอสินเชื่อเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญลูกหนี้จะต้องมีคุณสมบัติและความสามารถในการชำระหนี้ต่อไปด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลได้ประกาศวาระสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง โดยบูรณาการความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ใน 5 มิติ คือ ดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบ, เพิ่มช่องทางเข้าถึงสินเชื่อในระบบ เช่น พิโกไฟแนนซ์, ลดภาระหนี้โดยไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ ผ่านอนุกรรมการไกล่เกลี่ยฯ 77 จังหวัด, เพิ่มศักยภาพของลูกหนี้ ผ่านอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ฯ 77 จังหวัด, สร้างเครือข่ายองค์การการเงินชุมชน ให้ความรู้และทักษะทางการเงิน เป็นต้น

...

ทำเนียบรัฐบาล