กรมการข้าว เกี่ยวข้าวที่แปลงนาสาธิต หน้าพระเมรุมาศฯ/เงินบาทแข็งค่าหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย/สนช.ส่งเรื่องถามศาล กระบวนการสรรหา2กกต.

+++การเข้าชมนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ท้องสนามหลวง นายโอวาท  ยิ่งลาภ ผอ.กองประสานงานโครงการในพระราชดำริ กรมการข้าว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย จิตอาสาเข้ามาเกี่ยวข้าวในแปลงนาสาธิตหมายเลข ๙ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าพระเมรุมาศฯ เป็นครั้งที่ 4 ซึ่งขณะนี้ รวงข้าวสุกเหลืองอร่ามได้เวลาเก็บเกี่ยว ทั้งหมดเป็นข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 จำนวน 3,200 กระถาง ต่อจากนั้นศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานีจะนำข้าวกอใหม่เป็นข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 จำนวน 3,800 กระถาง มาสับเปลี่ยนแทนที่เช่นเดิม ส่วนเมล็ดข้าวที่ได้หลังเก็บเกี่ยวทั้งหมดแต่ละศูนย์ที่ดูแลข้าวในแต่ละชุดจะคัดก่อนนำไปบรรจุซอง เพื่อทำเป็นของที่ระลึก สำหรับข้าวชุดแรกที่ผ่านพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ 9 จะนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ข้าวของกรมการข้าว

+++ด้านนายปัญญา ร่มเย็น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี กล่าวว่า ศูนย์ได้นำข้าวที่ออกรวงแล้วอยู่ในระยะข้าวน้ำนมมาแทน ข้าวที่เกี่ยวออกไป โดยข้าวที่นำมาปลูกแทนทั้งหมดจะสุกและเก็บเกี่ยวได้พร้อมกับชุดที่เหลืออยู่ในวันที่ 5 ม.ค. 2561 ทั้งนี้ ข้าวในแปลงนาสาธิตมีนกเข้ามาจิกกินรวงข้าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทางศูนย์ จะนำหุ่นไล่กา 2 ตัว พร้อมเจ้าหน้าที่ 8 คน มาช่วยไล่นกออกจากแปลงนา

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล และในวันที่ 25-26ธ.ค. มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจรนอกสถานที่ที่ จ.พิษณุโลก และสุโขทัย ที่ประชุมได้กำหนดทิศทางการพัฒนาภาคเหนือเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลพร้อมติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ใช้โอกาสจากเขตเศรษฐกิจพิเศษและการเชื่อมโยงกับภูมิภาคขยายฐานเศรษฐกิจของภาคเหนือให้กว้างมากขึ้น

+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวานนี้ มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระการพิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่คณะกรรมการสรรหาได้สรรหามาแล้ว 5 คน และจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา 2 คน โดยจะเป็นการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ

+++นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช. อภิปรายว่า รายชื่อ 5 คนในส่วนของคณะกรรมการสรรหาไม่มีปัญหา จะติดใจในส่วนของ 2 รายชื่อที่มาจากศาลฎีกา ว่าการเลือกนั้นเป็นลงมติเปิดเผยหรือไม่ เพราะจากข่าวที่ออกมาเป็นการลงมติโดยไม่เปิดเผย แม้ศาล จะออกมาชี้แจงว่าทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน ขอให้ศาลฎีกาชี้แจงขั้นตอนและตอบกลับมาก่อนว่ากระบวนการสรรหาถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สนช.ควรพิจารณาตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติทั้ง 7 คน ไปพร้อมกัน

+++นายสุรชัย จึงแจ้งต่อที่ประชุมว่าจะให้ประธาน สนช.ทำหนังสือสอบถามที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา จึงขอเลื่อนวาระการพิจารณาในครั้งนี้ออกไป เพื่อรอหนังสือตอบกลับจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

+++นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม  ระบุว่า หากสนช.มีหนังสือสอบถามในประเด็นดังกล่าว ศาลฎีกาจะมีหนังสือตอบกลับตามขั้นตอนต่อไป

+++ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)  เช้านี้ มีการแถลงจับตัวการใหญ่ชาวไทยร่วมขบวนการต้มตุ๋นแชร์ข้ามชาติกว่า 1,000 ล้านบาท

+++นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม (ยธ.)ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงการรับเรื่องราวร้องทุกข์ในคดีของนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เปิดเผยถึง ความคืบหน้าผลการสอบสวนเรื่องดังกล่าวว่ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่า จะสามารถสรุปผลรายละเอียดสำนวนได้ภายในสัปดาห์หน้า และจะมีการแถลงเวลา 14.00 น.วันที่  20 ธ.ค.นี้

+++ติดตามตลาดเงินและตลาดทุน หลังผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 7 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 1.25 ถึงร้อยละ 1.50 ถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบปี 2560 และคาดว่าในปี 2561 และ ปี 2562 จะขึ้นอีก 6 ครั้ง ปีละ 3 ครั้ง ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.8

+++นายเชาว์ เก่งชน กรรมการบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า การที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวล่วงหน้า ส่วนเหตุผลการปรับขึ้นมาจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ปรับตัวดีขึ้น และเฟดไม่ให้น้ำหนักกับมาตรการปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) วันที่ 20 ธ.ค.นี้ เชื่อว่ายังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ1.50และยังไม่ปรับขึ้นในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน เพราะ กนง.ต้องการให้เศรษฐกิจภายในประเทศของไทยแข็งแกร่ง

+++รายงานข่าวจากกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า การที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยทำให้เปิดตลาดค่าเงินบาทแข็งค่าที่ 32.53 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในปีนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นแล้วร้อยละ 10 ถือว่าแข็งค่าเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย รองจากเงินวอน เกาหลีใต้ ด้วยปัจจัยหนุนจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องและกระแสเงินทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ของไทย

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 57.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ ปิดที่ 63.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ ดาวโจนส์ ลดลง 76.77 จุด ปิดที่ 24,508.66 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.84 จุด ปิดที่ 2,652.01 จุด แนสแดค ลดลง 19.27 จุด) ปิดที่ 6,856.53 จุด นักลงทุน กังวลความเป็นไปได้ที่แผนยกเครื่องภาษีของพรรครีพับลิกัน อาจเจอทางตัน

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคน ประกาศว่าจะไม่โหวตเห็นชอบร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี แต่ตลาด ยังได้แรงพยุงจากข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ในฤดูกาลช็อปปิ้ง

+++ราคาทองคำ ขยับขึ้น หลังเฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ