ญาติผู้บาดเจ็บ ถูกรถจยย.ชนเมื่อเดือนก.ค. ร้องรรท.ผบช.น.คดีไม่คืบ

13 ธันวาคม 2560, 15:36น.


นางสาวจิดาภา สุจินันท์กุล เดินทางเข้าพบพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอให้เร่งรัดคดีที่วัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์พุ่งชนนางสาวพรพรรณ  แซ่ฉั่ว น้าสาว อายุ 63 ปี ขณะขี่รถจักรยานข้ามถนนไปยังฝั่งซอยเจริญกรุง 65 ตัวลอยกระเด็นหลุดจากรถจักรยาน ศีรษะกระแทกพื้น หมดสติ สมองช้ำและฉีกขาด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เวลาประมาณ 20.30 น.จนถึงขณะนี้ เกือบ 6 เดือน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคู่กรณี และตำรวจยังไม่ออกหมายจับผู้กระทำผิด แม้จะมีหลักฐานชัดเจนก็ตาม



นางสาวจิดาภา เปิดเผยว่า วันนี้เข้าพบพลตำรวจโทชาญเทพ เพื่อนำหลักฐานต่างๆ มอบให้ เช่น วีดิโอจากกล้องวงจรปิด ภาพนิ่ง เอกสารใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดี เนื่องจากเหตุการณ์นี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งยังรู้สึกว่าตำรวจไม่อำนวยความสะดวกเท่าที่ควร ช่วงที่เกิดเหตุหลังนำตัวน้าสาวส่งโรงพยาบาล ได้แจ้งความกับตำรวจสน. ยานนาวา แต่ตำรวจบอกว่าลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ได้ ทั้งที่เหตุการณ์เพิ่งผ่านไป 2 ชั่วโมง จุดเกิดเหตุยังมีกองเลือด มีพยานแวดล้อมอยู่ครบ นอกจากนี้ตำรวจเคยพูดกับตัวเองว่า หากเป็นพ่อของเด็กที่ขับรถชน ก็จะไม่ให้มาขอโทษครอบครัวตน จึงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และได้โทรศัพท์ถามความคืบหน้ากับตำรวจเป็นระยะ จนถึงวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า มีการสอบถามไปเมื่อ 3 วันก่อน พนักงานสอบสวนก็บอกว่าอยู่ระหว่างรอผลพิสูจน์ร่องรอยการเฉี่ยวชน ของกองบังคับการตำรวจจราจร



ก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นผู้หาหลักฐานเอง ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และชื่อ นามสกุลผู้กระทำผิด ผ่านเฟสบุ๊ค  พบว่าผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์เป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ขับรถซ้อน 3 ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นมีการเจรจาตกลงค่าเสียหายกันครั้งหนึ่งแต่ตกลงกันไม่ได้ จึงมีการเลื่อนเจรจา แต่ต่อมาภายหลังก็ถูกอีกฝ่ายยกเลิก และพนักงานสอบสวนเปลี่ยนให้ไปรับฟังความคืบหน้าคดีนี้แทน





ขณะที่น้าสาวต้องเข้ารับการรักษา ผ่าตัดเปิดกระโหลก ตอนนี้นอนไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถขยับตัวได้ มีอาการสมองช้ำ เยื่อหุ้มสมองขาด มีโรคแทรกซ้อน เสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท ยังไม่รวมค่าดูแล ค่ายา อีกเดือนละหลายหมื่นบาท



ด้านพลตำรวจโทชาญเทพ ระบุว่า ผู้เสียหายได้มาร้องเรียนใน 2 ประเด็น คือเรื่องความคืบหน้าคดี และเรื่องที่พนักงานสอบสวนทำงานล่าช้า โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ขอกลับไปดูรายละเอียด ตรวจสอบหลักฐานให้แน่ชัดก่อน เพราะคดีนี้เป็นคดีอุบัติเหตุ เบื้องต้นที่เห็นภาพจากวีดิโอ จุดเกิดเหตุเป็นทางร่วม ทางแยก จะให้ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบว่ารถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วเท่าใด และผู้ขับรถจักรยาน ระมัดระวังหรือไม่ และหากร้อยเวรรับเรื่องช้า ไม่อำนวยความสะดวกเรื่องสำนวน จะต้องถูกลงโทษด้านวินัยด้วย



ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข 



 

ข่าวทั้งหมด

X