เตือน11จังหวัดใต้ฝนตกหนัก23-28 พ.ย./จับอุยกูร์ที่หลบหนีได้เพิ่ม/ฝากขังแล้ว วรรณา โยงระเบิดราชประสงค์

23 พฤศจิกายน 2560, 12:17น.


+++นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัย น้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนอุบลรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. – 23 พ.ย. ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 23 จังหวัด รวม 79 อำเภอ 482 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 126,390 ครัวเรือน 327,420 คน ผู้เสียชีวิต 29 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด รวม 9 อำเภอ 62 ตำบล 475 หมู่บ้าน 34,586 ครัวเรือน 76,822 คน แยกเป็น ลุ่มน้ำยม 1 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 1 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ลุ่มน้ำชี 1 จังหวัด ได้แก่ มหาสารคาม และสถานการณ์อุทกภัยจากการระบายน้ำในเขื่อนเพชรบุรี ทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี รวม 4 ตำบล ส่วนกรณีฝนตกหนักบริเวณอ.บ้านลาด อ.บ้านแหลม อ.ชะอำ และอ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร



+++นายชยพล กล่าวว่า ทั้งนี้จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุม อ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม และลมกระโชกแรง ในช่วงวันที่ 23-28พ.ย. โดยเฉพาะบริเวณ 11 จังหวัดภาคใต้ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ปภ.เขตในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์ฝนอย่างต่อเนื่อง



+++พล.ต.อ.วิระชัย  ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย  พล.ต.ต.ธนาศักดิ์  ฤทธิเดชไพบูลย์  รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมคณะทำงาน ดำเนินคดีเกี่ยวกับกลุ่มขบวนการรับจ้างทำผิดแทน หรือขบวนการสร้างแพะ ในคดีครูจอมทรัพย์  แสนเมืองโคตร โดยได้มีการคุมตัวผู้ต้องหาสอบปากคำต่อเนื่อง สำหรับ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เคยออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถชนคนเสียชีวิตแทนครูจอมทรัพย์ ได้เข้ามอบตัวเมื่อวานนี้ และได้ยอมรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายสุริยา นวลเจริญ เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ หลังจากถูกสอบเค้นนานกว่า 12 ชั่วโมง



+++รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เบื้องต้นหลังมีการสอบสวนนายสับ เจ้าตัวยืนยัน ว่าไม่ได้เป็นความจริงออกมารับแทน แต่ได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 4 แสนบาท  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลหลักฐานหลายอย่าง ที่เป็นประโยชน์ ในการดำเนินคดี  บุคคลสำคัญที่เป็นผู้จัดตั้งขบวนการคือ นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง  ทำหน้าที่ตั้งแต่วางแผน ตรวจเช็ค หารถทะเบียน 56  เพื่อมารับผิดแทน จนกระทั่งพบข้อมูลรถยนต์ ของนายสับ ก่อนไปทาบทาม ว่าจ้างให้ไปรับผิดแทนครูจอมทรัพย์  ถือว่าเป็นการกระทำเป็นขบวนการ  วางแผนแนบเนียนพอสมควร ที่สำคัญจากการตรวจสอบหลักฐาน การสอบปากคำนายสับ เชื่อมั่นว่าเชื่อมโยงถึงครูจอมทรัพย์แน่นอน  รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกรายขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนญาตินายสับ อีกสามคนมีรายงานว่าจะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย



+++สำหรับบุคคลที่ตำรวจได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไว้เบื้องต้นมี 7 ราย คือ  คนที่ 1นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง  ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ และยังมีหลักฐานเป็นบุคคลสำคัญในการตั้งขบวนการรับจ้างทำผิดแทน  คนที่ 2 คือ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นคนที่ออกมายืนยันว่า เป็นคนขับรถชนตัวจริง  คนที่ 3 คือ  นางจัน  วาปี อายุ 59 ปี  ที่เป็นภรรยานายสับ วาปี คนที่ 4 คือ นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี  คนที่ 5 คือ นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี  คนที่ 6 คือ นางทัศนีย์  หาญพยัคฆ์ อายุ 61  ปี พยานที่ยืนยันว่าเห็นเหตุการณ์ มีคนขับรถชนเป็นชาย  ส่วนคนที่ 7  คือ นายนิรันดร์  แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี    ซึ่งเป็นสามีของครูจอมทรัพย์  โดยมีการดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 267  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  ซึ่งมีการออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนทั้งหมดแล้ว



+++พนักงานสอบสวนนครบาลลุมพินี ได้คุมตัวนางสาววรรณา หรือ ไมซาเราะห์ สวนสัน ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกับพวกอีก 17 คน ก่อเหตุวางระเบิดศาลท้าวมหาพรหม เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 เข้าฝากขังที่ศาลทหาร เนื่องจากนางสาววรรณา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลทหาร ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย และทาให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครอง, พาอาวุธ (วัตถุระเบิด) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธรณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลทหารอนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558



+++หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวน พบว่า นางสาววรรณา มีชื่อเป็นผู้เช่าบ้านให้กับกลุ่มผู้ต้องหาในคดี แต่ในระหว่างติดตามจับตัว นางสาววรรณา เดินทางไปอาศัยอยู่กับสามีในตุรกี กระทั่งตำรวจทราบข้อมูลว่า เมื่อวานนี้ นางสาววรรณา มีกำหนดเดินทางกลับมาประเทศไทย ผ่านช่องทางสนามบินสุวรรณภูมิ ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวในสนามบิน



+++เหตุการณ์นั้น มีผู้เสียชีวิต รวม 20 คน มีผู้บาดเจ็บทั้งไทยและชาวต่างชาติ รวม 163 คน ส่วนผู้ต้องหาในคดีนี้ ศาลทหารอนุมัติหมายจับทั้งหมด 17 หมายจับ มีผู้ต้องหาถูก จับได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายอาเดม คาราดัก คือบีลาเติร์ก มูฮัมหมัด นายไมไรลี ยูซูฟู และนางสาววรรณา คือคนที่สาม ขณะที่ยังมีผู้ต้องหาที่เหลืออีก 14 หมาย อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลทหาร ในจำนวนนี้ มีนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีชาวตุรกี ของนางสาววรรณา รวมอยู่ด้วย



+++การติดตามชาวอุยกูร์ ที่เจาะกำแพงห้องกัก ตม.สะเดาหลบหนีไปเมื่อ 4 วัน ก่อน เจ้าหน้าที่ฝ่ายมาเลเซีย สามารถรวบตัวชาวอุยกูร์ได้แล้ว 1 คน คือ นายอับดุลเลาะห์ อายุ 23 ปี อยู่ระหว่างการดำเนินการส่งตัวมายังประเทศไทย และมีรายงานว่าชาวบ้านไปพบอีกสองคนหลบหนีภายในป่าละเมาะ จึงได้ประสานกับนายอำเภอสะเดา และจัดกำลังติดตามตั้งแต่เมื่อคืน ก่อนควบคุมตัวไว้ได้เมื่อช่วงเช้าขณะที่ชาวอุยกูร์ออกมาขออาหารจากชาวบ้าน



+++พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง กระแสข่าวที่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อาจจะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา แทนนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ว่า ไม่ทราบว่า นายวีระศักดิ์ มาจริงหรือไม่ ทราบจากข่าวเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายวีระศักดิ์  ก็ทำงานมาด้วยกัน แต่สื่ออย่าเพิ่งไปเขียนเลย รอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อนดีกว่า ทั้งนี้ คิดว่าทุกคนที่นายกฯ เลือกล้วนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทั้งนั้น



+++เจ้าหน้าที่ตำรวจประชุมติดตามจับคนร้าย3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน พร้อมอาวุธปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 1 ต.เสม็ด  อ.เมือง จ.ชลบุรี ช่วงหัวค่ำวันที่ 22 พ.ย.โดยได้ทองรูปพรรณไปทั้งสิ้น 535 บาท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.ภาค 2 กล่าวว่า คนร้ายที่ลงมือปล้นทรัพย์ในครั้งนี้แต่งกายชุดดำทั้งหมด มีปืนทั้งหมด 3 กระบอก เป็นปืนสั้นลูกโม่และแมกกาซีน ภายหลังจากปล้นทรัพย์เสร็จแล้วได้ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันหลบหนีคือ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นซูมเมอร์เอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน ลตษ 492 กรุงเทพฯ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน ยขจ484 กรุงเทพฯ คาดว่าจะเป็นทะเบียนปลอม ขณะนี้ได้ตั้งชุดทำงานโดยแบ่งออกเป็นส่วนๆ เพื่อติดตามหาร่องรอยคนร้ายที่หลบหนีแล้ว โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ จ.ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนคนร้ายมีความชำนาญในการใช้อาวุธพอสมควร และยังกบดานอยู่ในพื้นที่จ.ชลบุรี



+++ด้านนายชัยพร กิจตระกูลรัตน์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราช กล่าวว่า  การก่อเหตุของคนร้ายในครั้งนี้นับว่าอุกอาจมาก  ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุกับร้านของตนเพราะมีพนักงานอยู่เป็นจำนวนมาก  อีกทั้งอยู่ในห้างที่มีผู้คนพลุกพล่าน  รวมมูลค่าทองคำรูปพรรณที่ถูกปล้นไปประมาณ 10.6 ล้านบาท  ร้านได้ทำประกันภัยไว้คงพอชดเชยค่าเสียหายได้บ้าง และขณะนี้ได้ตั้งรางวัลนำจับ 3 แสนบาท 

ข่าวทั้งหมด

X