กทม.ฝน40%วันนี้/เปิดคำพิพากษาคดียิ่งลักษณ์จำนำข้าว/คุมราคาดอกดาวเรือง

19 ตุลาคม 2560, 09:38น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30  น.



++++กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปวันที่ 19 ตุลาคม 2560 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่



++++หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 27 กันยายน ให้จำคุก 5 ปี น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีโครงการรับจำนำข้าว โดยมีความผิดในเรื่องระบายข้าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรับจำนำข้าว โดยองค์คณะผู้พิพากษา มีมติ 8 ต่อ 1 เสียง โดยเสียงข้างน้อย 1 เสียงที่เห็นว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กระทำความผิดและพิพากษายกฟ้องคือ นาย พิศล พิรุณ โดยความเห็นในการวินิจฉัยคดีมีทั้งสิ้น 13 หน้า สรุปได้ดังนี้  คดีนี้ จากการไต่สวนไม่ปรากฏว่ามีพยานหลักฐานใดที่พอจะบ่งชี้ว่าจำเลยได้รับประโยชน์จากการทุจริตในการระบายข้าว ไม่มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใด ที่พอจะชี้ให้เห็นว่าการทุจริตของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด นั้น จำเลยมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือเหตุที่จำเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวตามที่โจทก์ฟ้องเป็นเพราะจำเลยต้องการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัท สยามอินดิก้า ไม่ปรากฏพยานหลักฐานใดที่ส่อแสดงว่าจำเลยมีความสัมพันธ์กับบริษัท สยามอินดิก้า หรือนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้าข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า จำเลยมีมูลเหตุชักจูงใจหรือเจตนาพิเศษเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายให้แก่กลุ่มของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือนายอภิชาติ การละเว้นไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของจำเลยตามฟ้อง จึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 จึงวินิจฉัยยกฟ้อ



+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า หลังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ และขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องนี้มีจำนวน 10ล้านบาทและ 26 ล้านบาท บุคคล 4คน ได้แก่ 1.นางเกศินี จิปิภพ 2.นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3.นายวันชัย หงส์เหินและ4.นายพานทองแท้ ชินวัตร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้บุคคลดังกล่าวเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหาในวันที่ 24ตุลาคมนั้น หลังได้รับหมายเรียกบุคคล 4ราย ได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนกำหนด เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 17ตุลาคมผู้ต้องหาทุกคนปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงสอบสวนปากคำไว้ และขอส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 60วัน ทั้งนี้ ทุกคนยังไม่มีหมายจับ หลังเสร็จสิ้นแจ้งข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยตัวกลับทันที โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ



+++ราคาดอกดาวเรือง ต้นดอกดาวเรือง และเมล็ดพันธุ์ ขู่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 21 พ.ศ.2560 เรื่องห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายดอกดาวเรือง ต้นดอกดาวเรืองและเมล็ดพันธุ์ ในราคาที่สูงเกินสมควร และให้ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า หากพบว่ามีการจำหน่ายในราคาที่สูงเกินสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ      นอกจากนี้หากพบไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า หรือจำหน่ายไม่ตรงกับป้ายราคาที่แสดงไว้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 การออกประกาศดังกล่าว เพื่อป้องกันมิให้ผู้ประกอบการจำหน่ายดอกดาวเรือง ต้นดอกดาวเรือง และเมล็ดพันธุ์ สูงเกินสมควร



+++ส่วนราคาผัก-ผลไม้ในช่วงนี้ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้พืชผักบางชนิดได้รับความเสียหาย และมีการปรับราคาสูงขึ้น เป็นการขึ้นลงตามระยะสั้น ซึ่งทางกรมการค้าภายใน ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์การจำหน่ายราคาผักสด และอาหารเจ ที่ตลาดเยาวราช



+++วันนี้ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ แถลงสถานการณ์ "ภาวะการนำเข้า-ส่งออก และดุลการค้า" ประจำเดือน ก.ย. 2560 ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ต้องจับตาตัวเลขส่งออกจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหรือไม่



+++นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสรุปผลการประชุมร่วมกับไอเอ็มเอฟ และเวิลด์แบงก์ หลังจากเดินทางไปประชุมที่สหรัฐ พร้อมพูดถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2561



+++หลังนายสุภาพ คลี่ขจาย ประธานสมาคมดิจิตอลทีวีแห่งประเทศไทย ไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการปฏิรูปสื่อสารมวลชนเสนอข้อเรียกร้องใน 3 ส่วน เพื่อให้รัฐดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ยกเว้นการเก็บเงินค่างวดใบอนุญาตทีวีดิจิตอลที่เหลือ ต้องการให้ทีวีดิจิตอลมีเพียง 30 ช่อง จากเดิมที่จะต้องมีจำนวน 48 ช่อง และ ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเช่าโครงข่ายสัญญาณ หรือ มักซ์ (MUX) ต้องการให้นำเงินที่ใช้แจกคูปองสำหรับซื้อเซตท็อปบ็อกซ์มาสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประกอบการแทน เนื่องจากค่าใช้จ่ายของมักซ์นั้นสูงถึง 65-169 ล้านบาทต่อปี



+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กสทช.ได้ดำเนินการช่วยเหลือมาตลอดตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจไว้ ตั้งแต่การขยายค่างวดออกไป การช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายมัสต์แครี่ แต่กรณีที่ต้องการให้ยกเว้นค่าใบอนุญาตที่เหลือนั้น กสทช.ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ และในส่วนของการนำเงินของการแจกคูปองมาใช้สนับสนุนค่ามักซ์ให้กับผู้ประกอบการนั้น กสทช.ก็ไม่สามารถตัดสินใจทำได้เอง เนื่องจากเงินดังกล่าวที่ตอนนี้มีอยู่ 3,000-4,000 ล้านบาทนั้น หากเหลือจากการแจกคูปองแล้วจะต้องนำส่งคืนรัฐ ดังนั้นในส่วนที่กล่าวมาขอย้ำว่า กสทช.ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งเงื่อนไขตอนนี้ คือ ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็ยึดแบงก์การันตี



+++วันนี้ ต้องติดตามหุ้นไทยหลังจากเมื่อวานนี้  เคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน ลดลงเกือบ 17 จุด แรงขายทำกำไร จับตาแรงขายต่างชาติปิดที่ 1,707.53 จุด  ลดลง 16.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,246.70 ล้านบาท แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ต.ค.) แกว่งตัวทิศทางปรับเพิ่มขึ้น หลังจากวานี้ปรับตัวลดลงแรงถึง 16.94 จุด เพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ทำให้นักลงทุนมีการขายทำกำไรออกมา นักลงทุนต้องจับตาทิศทางการลงทุนของต่างชาติ หากมีการขายหุ้นไทยต่อเนื่องต้องระมัดระวังการลงทุนเพิ่มขึ้น

ข่าวทั้งหมด

X