สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร/ย้ายสถานที่จำหน่ายเข็มที่ระลึก/นายกฯย้ำแนวทางแก้น้ำท่วม

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น..

+++สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 17.00  วันนี้ (18 ตุลาคม)ในการนี้ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร เมื่อนพปฎลมหาเศวตฉัตรขึ้นสู่ยอดพระเมรุมาศแล้ว เสด็จฯไปทอดพระเนตรพระที่นั่งทรงธรรมและพระเมรุมาศตามพระราชอัธยาศัย และเสด็จฯกลับ

+++น.ส.ศุภร รัตนพงศ์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวการจัดสร้างครั้งนี้ได้นำนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศของรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 มาเป็นต้นแบบ และดำเนินการจัดสร้างตามแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์

+++คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนที่ชมการเดินริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ไม่ว่าจะเป็นวันซ้อมใหญ่ในวันที่ 21 ตุลาคม และในวันถวายพระเพลิงวันที่ 26 ตุลาคม เมื่อริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จฯมาด้วย ขออยู่ในอาการสำรวม ไม่เปล่งเสียงใดๆ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเคารพนอบน้อม อีกเรื่องคืองดการถ่ายภาพแบบเซลฟี่ในระหว่างริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน และย้ำอีกครั้งสำหรับผู้ที่พกร่มมา ขอให้เป็นร่มสีดำหรือสีหม่นๆ เพื่อให้ภาพที่ปรากฏออกไปเกิดความสมพระเกียรติมากที่สุด

+++พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า มีความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมเป็นต้นไป บนพื้นที่จริง ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดการคัดกรองบุคคลเข้าพื้นที่ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรโดยรอบ

+++นายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นผู้รับผิดชอบการจำหน่ายและสั่งจองเข็มที่ระลึกพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กำหนดจำหน่ายครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม จำนวน 40,000 เข็มนั้น สปน.ได้ลงพื้นที่เพื่อเตรียมการจำหน่ายเข็มที่ระลึกให้แก่ประชาชน พบว่าพื้นที่บริเวณศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงาน ก.พ. (เดิม) ถนนพิษณุโลก มีความคับแคบ ย้ายสถานที่จำหน่ายไปยังหอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จำหน่ายราคาเข็มละ 300 บาท และจำกัดคนละไม่เกิน 2 เข็ม

+++สำหรับการจำหน่ายที่งานนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพบริเวณท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายนนั้น ขอยกเลิกการจำหน่ายเข็มที่ระลึกภายในงานนิทรรศการฯ จะกำหนดสถานที่ในการจำหน่ายเข็มที่ระลึกในเดือนพฤศจิกายนและประชาสัมพันธ์ให้ทราบอีกครั้ง การสั่งจองเข็มที่ระลึกตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป ในส่วนกลางสามารถสั่งจองได้ที่กองคลัง สปน. และธนาคารกรุงไทย เฉพาะเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และในส่วนภูมิภาค ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานที่รับจอง เพื่อให้เข็มที่ระลึกสามารถถึงมือประชาชนได้มากที่สุด

+++ปัญหาน้ำท่วม  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์น้ำว่า มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงที่น้ำล้นตลิ่ง เรียนแล้วว่ามีผลกระทบกับประชาชนที่อยู่ริมน้ำแน่นอน รัฐบาลต้องดูแลคนเหล่านี้ ถ้าไม่ทำน้ำก็จะเพิ่มขึ้น และจะล้นคันกั้นน้ำ จะมีผลกระทบทั้งกรุงเทพฯ และที่อื่นด้วย ใครที่เดือดร้อนรัฐบาลจะดูแล ต้องสอนการเรียนรู้ว่าจะอยู่กับน้ำได้อย่างไรในอนาคต วันนี้รัฐบาลมีแผนงานที่เสนอพิจารณาในเรื่องของการตัดตอนน้ำในภาคเหนือ ทำเส้นทางรับน้ำในตะวันตก ตะวันออก ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก มีการศึกษารายละเอียดมานานพอสมควรแล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน การใช้งบประมาณในการเยียวยา ซึ่งใช้งบประมาณ

+++ส่วนเมื่อน้ำท่วมแล้วน้ำลด ขยะก็จะเต็มไปหมดนายกรัฐมนตรี ถามว่า  ขยะมาจากไหน มาเองหรือมากับฝน ก็มาจากเราที่เอาไปทิ้ง จะไปโทษคนเก็บอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเก็บไม่หมดหรอก ถ้าทุกคนทิ้งเลอะเทอะกันแบบนั้น ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบ รัฐบาลทำทุกอย่าง เดี๋ยวจะให้รู้ว่ารัฐบาลทำอะไร

+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ ว่า ขณะนี้ยังเหลือพื้นที่ จ.ขอนแก่น ประมาณ 2-3 อำเภอที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนเกินความจุของเขื่อนอยู่ สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่อื่นๆ ไม่น่ามีปัญหา กรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำที่จะเข้าเขื่อนได้

+++พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้หมดความกังวลเรื่องพายุขนุนแล้ว แต่ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอันเนื่องมาจากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงมีฝนตกอยู่ สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือกำลังเผชิญ 2 เรื่องคือ 1.ร่องมรสุมพาดผ่าน และ 2.เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำเต็มความจุแล้ว ทำให้ต้องมีการระบายน้ำจากเขื่อนออกมา จะส่งผลกระทบต่อลุ่มน้ำชี ตั้งแต่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ทำให้น้ำที่ท่วมอยู่แล้ว 20-30 ซม. มีปริมาณที่สูงขึ้นมา ซึ่งน้ำทั้งหมดจะลงไปที่แม่น้ำโขง ได้ให้กรมชลประทานติดตั้งเครื่องผลักดันที่ปากแม่น้ำโขงเพิ่มเติมแล้ว ส่วนแม่น้ำมูลจะยังไม่มีผลกระทบเท่าไร

ส่วนภาคเหนือที่เป็นส่วนต้นของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้มีการสั่งการปิดการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.แล้ว โดยทั้งสองเขื่อนยังสามารถรองรับน้ำได้อีกมาก และในวันนี้จะเดินทางไปเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง ส่วนที่ จ.นนทบุรีและปทุมธานี จะได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนด้วย ทำให้การระบายช้าลง ยืนยันว่าน้ำเหนือจากจะไม่ส่งผลกระทบต่อ กทม. 

+++ย้ำอีกครั้ง นาย สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฎิเสธข่าวกระทรวงการคลังเตรียมปรับเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ หลังพบหลายคนไม่ได้ใช้ รถไฟฟ้า รถไฟและ บขส. โดยจะโยกวงเงินส่วนนี้ไปเพิ่มการใช้จ่ายใน ร้านธงฟ้าแทนนั้น ไม่เป็นความจริง และกระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว   สำหรับบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย จะได้รับวงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในระบบขนส่งมวลชน ในสามกลุ่ม คือ รถเมล์และรถไฟฟ้า ให้วงเงิน 500 บาทต่อราย  ค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถ บขส. วงเงิน 500 บาทต่อราย และค่าเดินทางโดยรถไฟ 500 บาทต่อรายสำหรับซื้อสินค้าร้านธงฟ้า ผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนละ 300 บาท ส่วนคนที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทแต่ไม่เกิน 100,000บาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนละ 200 บาท