ปิดจุดเสี่ยง-ลดอุบัติเหตุทล.118 สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ติดกล้องตรวจจับความเร็ว-ออกใบสั่ง

18 สิงหาคม 2560, 19:11น.


การลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ ติดตามจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย และดูเรื่องการติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในพื้นที่ทางหลวงหมายเลข 118 ดอยนางแก้ว-ดอยสะเก็ด เส้นทางจากจ.เชียงรายลงมาที่จ.เชียงใหม่  ซึ่งลักษณะกายภาพของถนน เป็นลักษณะโค้งลงจากเขา ทำให้เกิดอุบัติรถตกข้างทางอยู่บ่อยครั้ง เช่น เหตุการณ์รถบัส คณะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ตกเหวพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิต 14 ศพ เมื่อปลายปี 2558





พันตำรวจเอกพงษ์พีระ การะเกตุ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ถนนทางหลวงหมายเลข 118 เกิดอุบัติเหตุหมู่คณะบ่อยครั้ง จนเมื่อปี 2558 ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ได้ทำเรื่องของบประมาณไปที่มูลนิธิถนนที่ปลอดภัยกว่าประจำประเทศไทย (Safer Roads) และได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 14 ล้านบาท เพื่อติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็ว 24 ชั่วโมง จำนวน 5 จุด ประกอบด้วย ตั้งแต่ทางลงดอยนางแก้ว ที่มาจาก จ.เชียงราย จนถึงสามแยกดอยสะเก็ด โดยดำเนินการมาตั้งแต่ 21 ธ.ค.2559 ซึ่งตั้งแต่ติดตั้งกล้อง อุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้นจำนวนมาก ปัจจุบันลดลง และไม่มีผู้เสียชีวิตเลย





ทั้งนี้ยังจัดประชุม 2 เดือนต่อครั้ง เกี่ยวกับกล้องตรวจจับความเร็ว พร้อมสนับสนุนกระดาษ หมึก เพื่อพิมพ์ใบสั่ง ซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้มาจากค่าปรับของผู้กระทำความผิด โดยกระบวนการทำงาน ก่อนถึงจุดกล้องตรวจจับความเร็ว ประมาณ 500 เมตร จะมีป้ายสัญญาณเตือน และตัวเลขวัดความเร็วให้รถที่ขับผ่านทุกคัน ชะลอความเร็วก่อนเข้าจุดกล้องตรวจจับความเร็ว ที่จะมีการบันทึกภาพรถทุกคันที่ผ่านเข้ามาในจุดของกล้อง และส่งข้อมูลมาที่สภ. ดอยสะเก็ด





ทั้งนี้ หากพบรถคันใดขับเกินความเร็วที่กำหนดคือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะได้รับใบสั่งจาก สภ.ดอยสะเก็ด ส่งไปตามภูมิลำเนาตามทะเบียนรถที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม ยังติดปัญหาเรื่องศักยภาพการออกใบสั่งที่สามารถพิมพ์ได้ 200 วันเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันมีอัตราของผู้มีเสียค่าปรับ เพียงร้อยละ 20 ทั้งนี้หากได้รับใบสั่งแล้วผู้กระทำความผิดไม่ชำระค่าปรับ ต่อไปจะออกใบเตือน แต่หากไม่มาชำระอีกจะส่งเอกสารอายัดการต่อภาษีรถไปที่กรมการขนส่งทางบก โดยส่วนใหญ่ที่เป็นผู้กระทำความผิด คือขับรถเร็วจะเป็นคนต่างถิ่นที่ไม่รู้ว่าจุดนี้มีการตรวจจับความเร็ว และขณะนี้ยังพบช่องโหว่ของกฎหมายเรื่องระยะการชำระค่าปรับของผู้กระทำความผิด ที่ทำให้บางส่วนยังนิ่งเฉย และไม่ชำระตามเอกสารที่ได้





ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม



 

ข่าวทั้งหมด

X