รองโฆษกตร.เผยรู้แหล่งกบดานคนร้ายปล้นเต๊นท์รถ/ ตร.วางมาตรการความปลอดภัย ยิ่งลักษณ์ฟังคำพิพากษา/คนเชื่อถือปูตินมากกว่า ทรัมป์

17 สิงหาคม 2560, 18:50น.


สรุปข่าว 19.35 น.



+++เหตุการณ์ คนร้ายปล้นรถยนต์ 6 คัน และจับเจ้าของเต๊นท์พร้อมลูกน้องไป 4 คน เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบว่า คนร้ายในกลุ่มที่ก่อเหตุ เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.หนองจิก,อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ พื้นที่ 4 อำเภอ ของ จ.สงขลา และ เนื่องจากเป็นเหตุอุจฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงต้องลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดการสืบสวนสอบสวน จับกุมคนร้ายด้วยตัวเองเนื่องจากการเหตุการณ์ปล้นรถยนต์ในครั้งนี้ อาจนำไปสู่การก่อเหตุลอบวางระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ได้ และอาจทำให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก พร้อมได้มีการกำชับ การติดตาม จับกุม และตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เพื่อสร้างความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และสร้างขวัญ กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ เพราะกลุ่มที่ก่อเหตุ มุ่งหวังต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน



+++พลตำรวจตรีภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมมาตรการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร เตรียมพร้อมรับมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 25 สิงหาคมนี้ โดยศาลฎีกาฯให้แนวทางปฏิบัติมาแล้ว ทั้งการกำหนดจุดพื้นที่วางแนวแผงกั้น จึงหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางร่วมกัน พร้อมประเมินจำนวนมวลชนที่ต้องดูแลและเฝ้าระวังมือที่สาม อาจก่อกวน โดยจะติดตั้งเครื่องเอกซเรย์ป้องกันอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมาย มีการบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ตั้งแนวรั้วเหล็กกั้นตั้งแต่ริมถนนเพื่อความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ศาล และวางกำลังดูแลเพิ่มความเข้มการตรวจสอบ การดูแลความปลอดภัย ตำรวจจะเน้นดูแลทั้งมวลชนรวมถึงองค์คณะผู้พิพากษา จะตั้งด่าน 3 จุด โดยรอบเพื่อตรวจเข้มรถโดยสารการขนมวลชนมา ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องตรวจค้นอย่างเข้มงวด อาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง  ด้านการข่าวพบว่าจะมีประชาชนมาให้กำลังใจอดีตนายกฯจำนวนมาก คาดว่ามากกว่าครั้งแถลงปิดคดี ขณะนี้ยังไม่พบการเตรียมก่อเหตุหรือกลุ่มมือที่สาม ยืนยันไม่ปิดกั้นกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกฯ แต่อยากให้ติดตามข่าวสารที่บ้านจะสะดวกกว่า  โดยขอกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1,2 และ 7 อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา โดยจะใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน 17 กองร้อย หรือประมาณ 2,500 นาย รวมถึงตำรวจหญิง หรือกองร้อยน้ำหวาน โดยใช้กำลังจากภูธรภาค 1 ภาค 2 และ ภาค 7 มาดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ศาล



+++พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 3 (ผบ.กกล.รส.ทภ.3) กล่าวว่า ทางทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือนในพื้นที่จะเน้นทำความเข้าใจกับประชาชน และแกนนำในพื้นที่ว่าในวันดังกล่าวทุกคนสามารถให้กำลังใจกันได้กันในท้องที่ หรือในบ้านตนเอง ซึ่งเราไม่ได้ห้ามการให้กำลังใจ แต่อยากให้คิดว่าหากเข้ามาในกทม.จะลำบากหลายประการ ไม่ว่าจะปัญหาการจราจรติดขัด และพื้นที่บริเวณศาลฎีกาฯค่อนข้างจำกัด พร้อมปฎิเสธ ทำหนังสือข้อตกลงกับแกนนำในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ไม่ให้ขนมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ และได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้เผยแพร่และบิดเบือนข้อเท็จจริง



+++การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)มีมติเป็นเอกฉันท์ รับหลักการร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการทำผิดเกี่ยวกับการขัดระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ..ด้วยคะแนน 150 คะแนนต่อ0 เสียง งดออกเสียง 7 เสียงและตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญจำนวน 29 คนพิจารณาร่างกฏหมายฉบับนี้ แปรญัตติภายใน 15 วันกำหนดเวลาในการทำงาน 60 วันนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การตราร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้การบริหารงานของรัฐต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส เปิดเผยและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน จึงสมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ เพื่อเป็นการขจัดการทุจริตกละประพฤติมิชอบ และเป็นกฎหมายที่ทำเพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาที่ตกลงไว้กับนานาชาติ  ในอดีตเคยร่างกฎหมายกำหนดไว้ 7 ชั่วโคตร แต่สนช.ในยุคนั้นไม่เห็นชอบ จึงได้นำมาปรับแก้ เหลือเพียง 3 ชั่วโคตร และคำว่าญาติที่จะเข้ามาอยู่ใน 3 โคตรใช้กับเรื่องเดียวคือการรับของขวัญ รับประโยชน์เท่านั้น คือบุพการี พ่อแม่ /พี่น้องร่วมบิดา มารดา /ผู้สืบสันดาน รวมถึงบุตร   และไม่ได้ใช้ในกรณีที่ทั่วไป แต่ใช้ในกรณีรับเงินรับของขวัญที่ผิดประเพณี  ซึ่งหากจะผิด คือคนที่รับ ไม่ใช่ข้าราชการคนนั้น เว้นแต่รู้เห็นเป็นใจในการรับ  



+++ภาวะแข็งค่าของเงินบาท นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ติดตามการแข็งค่าของเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หลังในช่วงที่ผ่านมาเงินสกุลหลักของโลกแข็งค่า เพราะ เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์  ประกอบกับ ประเทศไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้เม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในไทย แต่หากสถานการณ์ค่าเงินแข็งค่าจนกระทบกับภาคส่งออก ธปท.พร้อมใช้มาตรการทางการเงินที่มีอยู่ดูแล ขณะที่เอกชนควรบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรองรับความไม่แน่นอน เพราะผลกระทบส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ นอกจากนี้ ธปท.เตรียมเสนอมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการรายเล็กในอุตสาหกรรมการส่งออกทำประกันความเสี่ยง โดยรัฐบาลจะใช้เงินสนับสนุนค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเสนอเข้า ครม.เร็ว ๆ นี้



+++ปัญหาลวนลามลูกจ้างสาวสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 4 คน ตั้งแต่ปี 2557จนถึงปัจจุบัน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนข้อเท็จจริง ทุกอย่างจะเป็นไปตามเนื้อผ้า เหลือเพียงรอให้ข้าราชการที่ถูกกล่าวหา มาให้ข้อมูล แก้ต่าง ภายในวันที่ 18  ส.ค. หากไม่มาก็จะสรุปไปตามเนื้อหาข้อมูลที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุข มีแบบแผนและวัฒนธรรมองค์กร ที่ยึดเรื่องของคุณธรรม



+++ด้านนายอัศม์เดช รัตนวรประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มภารกิจกองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วชิรนุสรณ์ คำแพง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่นางโชติกา อู่คงคา อายุ 28 ปี พนักงานอัตราจ้างตำแหน่งเลขานุการกลุ่มภารกิจกองกลางกลุ่มภารกิจกองกลางกระทรวงสาธารณสุข ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความว่าได้ถูกนายอัศม์เดช หัวหน้างานกระทำอนาจารในที่ทำงานโดยมีภาพคลิปวีดีโอที่แอบถ่ายไว้เป็นหลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำนายอัศม์เดชนานกว่า 4 ชม.ก่อนจะพาตัวไปที่ห้องชี้ตัวผู้ต้องหาและให้ยืนปะป่นกับบุคคลอื่น โดยมีนางโชติกา ผู้เสียหายมารอชี้ตัวอยู่แล้วซึ่งสามารถชี้ตัวนายอัศม์เดชได้อย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหากับนายอัศม์เดช กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ต่อหน้าธารกำนัล มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งนายอัศม์เดชได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาโดยจะขอไปให้การในชั้นศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายอัศม์เดช พร้อมสำนวนคดีส่งฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นคดีที่ผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหาทำงานอยู่ที่เดียวกันเกรงจะมีการข่มขู่หรือถูกกลั่นแกล้ง ต่อมาทนายความของนายอัศม์เดช ได้ยื่นเอกสารพร้อมเงินสด เพื่อขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดนนทบุรีอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 200,000 บาท 





+++พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการโพสต์ภาพพร้อมข้อความตึกย่านเพลินจิต ท้องที่ สน.ลุมพินี ในลักษณะสร้างความตื่นตกใจให้กับประชาชนว่า ทราบตัวผู้โพสต์ข้อความแล้ว 1 คน แต่ยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ และอยู่ระหว่างติดตามตัวบุคคลที่กระทำลักษณะเดียวกันเพิ่มเติม  ซึ่งวานนี้ (16 ส.ค.) เจ้าของตึกส่งตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกทำให้เกิดความเสียหาย จึงขอฝากเตือนผู้ใช้สื่อออนไลน์ให้ระมัดระวังในการโพสต์ภาพหรือข้อความที่เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์



+++ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนใน 37 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจัดทำโดยศูนย์วิจัยพิว สำนักโพลที่เชื่อถือได้ พบว่าคนส่วนใหญ่มีความเชื่อถือในตัวประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย มากกว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กลุ่มประเทศที่เชื่อถือปูตินมากกว่า ได้แก่ กรีซ เยอรมนี ตุรกี ฮังการี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เลบานอน เวียดนาม และเม็กซิโก รวมทั้งชาติพันธมิตรของสหรัฐอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ด้วย ส่วนประเทศที่เชื่อถือทรัมป์มากกว่า ได้แก่ อังกฤษ แคนาดา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ออสเตรเลีย อิสราเอล และฟิลิปปินส์. 



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,568.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,001.78 ล้านบาท ปัจจัยในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยไตรมาส 2/60 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะรายงานในวันที่ 21 ส.ค. และสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค. รวมไปถึงคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลยวันที่ 25 ส.ค.นี้



+++ดัชนีนิกเกอิปิดขยับลงในวันนี้ จากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ปิดลบ 26.65 จุด ที่ 19,702.63 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในช่วงเปิดตลาด ลดลง 64.85 จุด ที่ 27,344.22 จุด  

ข่าวทั้งหมด

X