กองปราบ สอบปากคำบอย ยูนิตี้ หลักฐานชัด มีผู้เสียหายแจ้งความฉ้อโกง

การควบคุมตัวนายอินทระศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือ “บอย ยูนิตี้” กรรมบริษัทเอสทีที ออโต้ เซอร์วิส จำกัด หลังยื่นฟ้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พันตำรวจเอกจิรภพ ภูริเดช รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 มีผู้เสียหาย 5 - 6 คน เข้าแจ้งความว่าได้ซื้อรถยนต์หรูมูลค่าตั้งแต่ 8 -30 ล้านบาท จากบริษัทในกลุ่มของนายอินทระศักดิ์ แล้วเกิดปัญหาถูกกรมศุลกากร และตำรวจจับ จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานในส่วนของผู้เสียหายที่ซื้อรถยนต์พอร์ช ราคา 8 ล้านบาท จนมีหลักฐานชัดเจน จึงขอศาลออกหมายจับนายอินทระศักดิ์ เมื่อวานนี้ ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และนำกำลังเข้าจับกุมวันนี้ พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาอีกคดีที่ผู้เสียหายซื้อลัมโบกินี่ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แล้วเกิดปัญหาภายหลังเช่นกัน ส่วนการออกหมายจับและนำกำลังจับกุมโดยไม่ออกหมายเรียก รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า เนื่องจากคดีมีอัตราโทษเกิน 3 ปี พนักงานสอบสวน สามารถออกหมายจับหรือออกหมายเรียกได้ แต่ตำรวจใช้แนวทางการออกหมายจับและจับกุมทันที เนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจน

ด้านนายอินทระศักดิ์  ระบุว่า รู้สึกแปลกใจ ไม่เข้าใจที่ถูกจับแบบไม่ทันตั้งตัว และเห็นว่าตำรวจสามารถออกหมายเรียกได้ โดยตัวเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดการจับกุม แต่ยินดีให้ความร่วมมือกับตำรวจ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้ตรวจค้นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและอายัดรถของนายอินทระศักดิ์ เพื่อเก็บไว้รวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบป้ายทะเบียนรถยนต์ และ เอกสารการเสียภาษีรถที่นายอินทระศักดิ์เคยนำเสนอต่อสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่จะได้รับการประกันตัวหรือไม่เป็นกับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน

ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ