บรรยากาศที่บริเวณหน้าปากซอยมงคลเศรษฐี หรือซอยเลียบคลองแอล ซึ่งจะเข้าไปสู่ประตู 5 และ 6 วัดพระธรรมกาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายแนวกั้นพื้นที่ ออกมาตรงบริเวณ 5 เมตร ก่อนจะถึงถนนคลองหลวง และมีการสลับสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยกั้นไม่ให้บุคคลเข้าไปในวัดพระธรรมกาย แต่หากศิษยานุศิษย์หรือพระสงฆ์ต้องการจะออกจากวัด ทางเจ้าหน้าที่จะเปิดทางให้ โดยบริเวณริมถนนคลองหลวงหน้าปากซอยมงคลเศรษฐี มีรถควบคุมผู้ต้องขังจอดอยู่กว่า 5 คัน มีรถขยายเสียง 1 คัน มีรถยนต์กำเนิดไฟฟ้าส่องสว่าง และรถเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่ง
โดยในเวลาประมาณ 03.10 น. มีพระภิกษุที่เดินทางมาจากศรีษะเกษกว่า 15 รูป เดินทางมาที่บริเวณตรงข้ามปากซอยมงคลเศรษฐี เพื่อมาเข้าร่วมกับวัดพระธรรมกาย แต่เมื่อข้ามถนนมาถึงเกาะกลางถนน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ก็สกัดกัน ไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ควบคุมพิเศษ ตามอำนาจมาตรา 44 พระภิกษุจึงได้ข้ามถนนกลับไป พร้อมกับระบุกับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้มีพระภิกษุจากหลายวัดในจังหวัดศรีษะเกศพร้อมใจมาที่นี่ ยืนยันว่ามาด้วยความสมัครใจ เนื่องจากไม่สบายใจที่เห็นข่าวของวัดพระธรรมกาย โดยออกเดินทางตั้งแต่ 5 โมงเย็นของเมื่อวานนี้ และเพิ่งมาถึง ซึ่งทางพระต่างก็เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ต้องทำตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามพระภิกษุจะยังคงปักหลักอยู่ที่นี่ และจะไม่ไปไหน
ทั้งนี้การปฏิบัติการควบคุมพระภิกษุและศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย จะมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-3 จำนวน 13 กองร้อย
ขณะที่ฝั่งเจ้าหน้าที่วัดพระธรรมกาย ก็มีการเตรียมความพร้อมทันที เมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้มารวมตัวอยู่บริเวณทางเข้าถนนเลียบคลองแอล ซึ่งศิษยานุศิษย์วัด และพระสงฆ์ ได้ออกมานั่งปักหลักสวดมนต์ อยู่ภายในเต็นท์ ที่มีการติดสแลนปกปิดการมองเห็น บริเวณประตู 5 และประตู 6 โดยศิษยานุศิษย์วัดบางคนได้มีการนำเสื้อกันฝนมาสวมใส่ เตรียมความพร้อมหากเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถน้ำฉีดใส่ ผู้ที่มาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ผสข. สมจิตร์ พูลสุข