นักวิชาการด้านเครื่องกลจากปท.ไทยมองว่า การพัฒนาเทคโนโลยีตัวรถช่วยลดอุบัติเหตุได้มากกว่าการปรับปรุงพฤติกรรมคนขับ

ที่สนามแข่งรถเซปัง รัฐซาลังงอ ประเทศมาเลเซีย วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่มีการจัดงาน Stop The Crash ASEAN ซึ่งเป็นงานป้องกันการชนของอาเซียน ที่มีการสาธิตเทคโนโลยีป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยประเทศมาเลเซีย ถือเป็นประเทศที่มีการตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นอย่างมาก จนได้เป็นศูนย์กลางด้านความปลอดภัยทางถนนของอาเซียน

รศ.ดร. สายประสิทธิ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์  เปิดเผยว่า การดำเนินการเรื่องความปลอดภัยทางถนนของมาเลเซีย มีจุดเด่นในเรื่องการรวบรวมนักวิชาการทุกศาสตร์ ทั้งเรื่องเกี่ยวกับถนนรถการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน  รวมทั้งนักวิจัยทุกภาคส่วน มีส่วนสนับสนุนและกำหนดนโยบาย ทิศทางการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นได้  ขณะที่ประเทศไทยมีสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในเรื่องนี้ รศ.ดร. สายประสิทธิ ระบุว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาประเทศไทยต้องยกระดับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคอุตสาหกรรมกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยกระดับมุมมองการป้องกันอุบัติเหตุ ทั้งทางด้านคนรถและถนน

ส่วนตัวรถเป็นปัจจัยที่ทำได้ง่ายสุดที่จะลดอุบัติเหตุ รองลงมาก็คือถนน ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนให้ปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคน แต่อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาก็จำเป็นที่จะต้องยกระดับทั้งสามสวนไปด้วยกันในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับปัจจัยใดที่ทำให้ไทยยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องอุบัติเหตุทางท้องถนนได้นั้น รศ.ดร. สายประสิทธิ เปิดเผยว่า สิ่งที่สำคัญคือผู้บริโภคต้องเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ตัวรถที่ไม่มีคุณภาพก็เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเข้าใจถึงคุณลักษณะ และแนวทางที่จะประยุกต์ใช้เทคโนโลยี หรือรถที่มีคุณภาพในการที่จะใช้ขับขี่หรือโดยสาร

สำหรับการประชุมสัมมนา Stop The Crash ASEAN ในช่วงสองวันมานี้  พบว่าในปีนี้แตกต่างจากปีที่แล้วในเรื่องของการแสดงสาธิตการทดสอบรถเทคโนโลยีต่างๆ เป็นปีแรก ขณะที่ปีที่ผ่านๆมาจะเป็นเพียงการประชุมสัมมนาทางวิชาการเท่านั้น ซึ่งการสาธิตเทคโนโลยีต่างๆ ในครั้งนี้ จะสาธิตภายใต้ข้อกำหนดของวิศวกรรมยานยนต์ของแต่ละบริษัทที่มานำเสนอ โดยจะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีจากรถ สามารถลดอุบัติเหตุทางถนนได้มากกว่าการปรับปรุงพฤติกรรมของคน แม้ว่าการปรับปรุงพฤติกรรมของผู้ขับขี่จะเป็นส่วนหนึ่ง แต่โดยทั่วไปต้องมีความสามารถในการควบคุมรถด้วย แต่ถ้ามีเทคโนโลยีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถในการขับขี่รถมากนัก และช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้

แต่ข้อจำกัดของไทย คือ ความรู้ความเข้าใจของผู้ใช้รถ ดังนั้นจะต้องมีสื่อที่เป็นผู้อธิบายให้ผู้บริโภคเข้าใจ ไม่เฉพาะสื่อยานยนต์เท่านั้น แต่จะต้องเป็นสื่อสำหรับผู้บริโภคด้วย โดยจะต้องนำเสนอว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ แต่มีข้อจำกัดอย่างไร คุณภาพเป็นอย่างไร เพราะหากมีเทคโนโลยี แต่ผู้ขับขี่ไม่รู้ถึงความสามารถและข้อจำกัด ก็ไม่มีผลในการลดอุบัติเหตุ