กฟผ.ยืนยันระบบตรวจความมั่นคงของเขื่อน ทำงานเร็ว แม่นยำ เริ่มติดตั้งแล้ว 14เขื่อน

27 กันยายน 2559, 11:22น.


การพัฒนาระบบตรวจความมั่นคงปลอดภัยเขื่อน ซึ่งสามารถแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุผิดปกติของเขื่อน เช่น เมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว ในวันนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้รับมอบระบบติดตามตรวจวัดข้อมูลระยะไกลด้านความปลอดภัยของเขื่อน (DS - RMS) หรือระบบสุขภาพเขื่อน จากทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. 

นายอรรถพร วัฒนวิสุทธิ์ รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะผู้รับมอบ กล่าวว่า ปัจจุบัน กฟผ.มีระบบการตรวจสอบความผิดปกติของเขื่อนแต่อาจจะไม่ทันสมัย การรายงานผลอาจจะไม่รวดเร็ว วันนี้ที่ได้รับมอบอุปกรณ์การตรวจความมั่นคง  ถือเป็นความภาคภูมิใจของไทยกับการสร้างเครื่องติดตามตรวจวัดข้อมูลระยะไกลด้านความปลอดภัยของเขื่อน ที่จะช่วยประเมินสถานการณ์เขื่อนด้วยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาบูรณาการกับเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านงานวิจัย ซึ่งสามารถตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อนได้ตรงจุด ในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ทั้งเรื่องแรงดันน้ำ ระดับน้ำในเขื่อน ปริมาณน้ำรั่วซึม รวมทั้งการวัดสภาพแผ่นดินไหว และตรวจสอบน้ำหลาก ใน 14 เขื่อนหลักที่ทำการติดตั้ง เพื่อส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้เจ้าหน้าที่เตรียมรับมือ ให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งไปยังกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย โดยเชื่อมั่นว่าระบบดังกล่าวจะสามารถช่วยให้เตรียมรับมือหากเกิดปัญหาได้ทันเวลา เนื่องจากมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและแจ้งเตือนมายังเจ้าหน้าที่ตามเวลาจริง ล่าสุด ได้เริ่มติดตั้งไปแล้วหลายเขื่อน เช่นที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เชื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี และเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ในวงเงิน 200 ล้านบาท  





  

ทั้งนี้ในอนาคตข้างหน้า อาจมีการนำระบบตรวจสุขภาพเขื่อนเสนอต่อไปให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่สนใจ ส่วนในเขื่อนขนาดเล็กที่เหลือในประเทศไทย คงไม่มีการนำระบบนี้ไปติดตั้ง แต่อาจพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับเขื่อนที่เหลือ

โดยระบบตรวจสุขภาพเขื่อน จะมีเซนเซอร์ตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อนที่ถูกติดตั้งไว้ บริเวณรอบเขื่อน หากเกิดเหตุขึ้น เครื่องนี้จะประมวลผลเพื่อส่งค่าไปยังหน่วยตรวจวัดระยะไกลที่ติดตั้งในอาคารบริเวณสันเขื่อนและท้ายเขื่อน ซึ่งเป็นตัวรับข้อมูลทั้ง พฤติกรรมเขื่อน ข้อมูลแผ่นดินไหว และสถานการณ์น้ำ ก่อนส่งไปยังคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เพื่อประเมินผลของเขื่อน ให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยมีการเตือนสามระดับ คือ ปกติ เฝ้าระวัง และแจ้งเตือน โดยจะแจ้งสถานะความปลอดภัย ผ่าน โปรแกรมในรูปแบบ Web Application ที่พัฒนาขึ้นและแจ้งเตือนผ่าน SMS E-mail ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ทราบถึงความผิดปกติ เพื่อไปยังจุดที่เกิดปัญหาและเร่งทำการแก้ไข 

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้ที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง นายอรรถพร กล่าวว่าขณะนี้เขื่อนต่างๆ ยังมีความสามารถในการรับน้ำได้อยู่และยังไม่มีความน่ากังวลใดๆ





ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม 

ข่าวทั้งหมด

X