*กปปส.ประกาศสู้ต่อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ 4 ข้อ

เมื่อเวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ได้ขึ้นเวทีปราศัยระบุ แม้ว่ามีการประกาศกฎอัยการศึกออกมา แต่ขอยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการต่อสู้ของกปปส. และขอผู้ชุมนุมอย่าสับสน เพราะการประกาศกฎอัยการศึกไม่ได้เป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ซึ่งกปปส.ยังคงมีสิทธิ์ที่จะต่อสู้ตามกรอบรัฐธรรมนูญได้ตามเดิม และจะยังต้องต่อสู้ต่อไป และต้องรวมพลังกันให้มากกว่าเดิม เพราะยังไม่มีประกาศชัยชนะ

สำหรับชัยชนะที่จะได้ต้องหมายถึงชัยชนะของประชาชนทั้งประเทศประกอบด้วย 4 ประการ คือ 1.โดยระบอบทักษิณต้องหมดไปจากประเทศ 2.ประเทศต้องได้นายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มมาแก้ไขปัญหาประเทศ 3.นายกรัฐมนตรีต้องมีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากนักการเมือง และ4.มีนายกรัฐมนตรีใหม่และรัฐบาลใหม่ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลของประชาชน เพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศตามเจตนารมณ์ของกปปส. ทั้งหมดนี้จึงถือเป็นชัยชนะ

แต่ขณะนี้ยังไม่มีนายกรัฐมนตรี วุฒิสภาก็ยังไม่มีการเลือกนายกรัฐมนตรี จึงไม่มีใครรับหน้าที่ไปปฏิรูปประเทศ ดังนั้นกปปส.ต้องผนึกกำลังและต้องสู้ต่อไป และจะไม่ถอย จนกว่าจะได้ชัยชนะ ทั้ง 4 ข้อ และถ้าหากวุฒิสภาไม่ยอมเลือก กปปส.ก็จะสู้จนกว่าจะได้นายกรัฐบาลของประชาชน ไปปฏิรูปตามเจตนารมณ์ของประเทศ

จากนั้นนายสุเทพได้ชี้แจงขั้นตอนการออกกฎหมายการดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างพ.ร.บ.ความมั่นคงและกฎอัยการศึก ซึ่งกฎอัยการศึกเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจของกองทัพ เมื่อทางกองทัพเห็นว่า จะเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ทหารจึงต้องออกกฎอัยการศึก เพื่อให้สามารถปกป้องประชาชนปลอดภัยและให้ประเทศสงบสุข โดยไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ การประกาศกฎอัยการศึกจึงเป็นเรื่องใหญ่จึงต้องหารือกันหลายฝ่าย แต่การประกาศเมื่อกลางดึกรัฐบาลกลับไม่ทราบเรื่อง รวมถึงไม่มีการรายงานให้รัฐบาลทราบ เพราะตามปกติการออกกฎอัยการศึกรัฐบาลต้องร่วมกับกองทัพ

พร้อมกันนี้ชื่นชมพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา  ผู้บัญชาการทหารบก ผบ.ทบ.ที่ออกกฎอัยการศึกโดยไม่แจ้งรัฐบาล ยืนยันไม่สมคบคิดกับกองทัพในการออกกฎอัยการศึก และต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเองเท่านั้น และเหตุผลที่กองทัพประกาศกฎอัยการศึก เนื่องจากได้ติดตามสถานการณ์มาตลอด และที่ผ่านมามีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก พร้อมย้ำให้มวลชนมาชุมนุมกันเหมือนเดิมกับกปปส.

ทั้งนี้ หากภายในสองสามวันนี้ ยังไม่เลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องง้อวุฒิสภาอีกต่อไป เพราะให้โอกาสมาแล้ว จากนั้นจะจัดการกับวุฒิสภาทันที และจะดำเนินการเลือกนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง ดังนั้นจึงขอย้ำกับผู้ชุมนุมว่าอย่าเพิ่งคิดว่าได้ชัยชนะแล้ว และยืนยันกำหนดการเดิมที่ประกาศไว้ก่อนหน้า โดยจะประกาศชัยชนะของกปปส.ในวันที่ 26 พฤษภาคม นี้ ในเวลา 19.00 น.  ว่าสามารถเรียกคืนอำนาจอธิปไตยคืนกลับสู่ปวงชนชาวไทยแล้ว ดังนั้นในวันที่ 23-25 พฤษภาคม นี้ ขอให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมกับกปปส.ให้ได้มากที่สุด