การส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถกระบะ ภายใต้โครงการพัฒนารถกระบะ ของทางบริษัทโตโยต้า หรือ ไอเอ็มวี รุ่นที่2 นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทโตโยต้า ได้เริ่มใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะวีโก้ มาตั้งแต่ปี 2547 จนมาถึงปัจจุบัน จนทำให้รถกระบะวีโก ได้รับความนิยมไปใน108ประเทศทั้ว หรือคิดเป็นยอดการส่งออกที่สูงสุดถึง 2,400,000คัน และ สามารถนำรายได้กลับเข้าประเทศไทยกว่า 1,850,000ล้านบาทจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยขยายตัวขึ้น
จากนี้ โตโยต้า จะพัฒนาโครงการรถกระบะของทางบริษัทฯ หรือ ไอเอ็มวี รุ่นที่2 โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตเช่นเดิม เพิ่มเม็ดเงินลงทุนในด้านการผลิตอีก 50,000ล้านบาท ซึ่งนี่ก็จะเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนรายได้เศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยใหม่ๆด้วยเช่นกัน
ขณะที่ หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ได้กล่าวในฐานะที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไทย ว่า การที่โตโยต้า ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการพัฒนาระบบการผลิตรถกระบะ ไอเอ็มวี รุ่นที่2 เพื่อส่งไปจำหน่ายทั่วโลกนี้ จะช่วยผลักดันอุตสากรรมรถยนต์ของไทยให้ขยายตัวมากขึ้น ส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลก ถึงแม้ว่ายอดการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศปี 58 จะไม่เพิ่มมากนัก แต่รทิศทางการส่งออกก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น วันนี้ โตโยต้ามอเตอร์ ได้จัดนงานเฉลิมฉลอง "2558 ไฮลักซ์ใหม่ กระบะไทย ปฏิวัติมาตราฐาน" ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังมีการส่งออกรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ รุ่นใหม่ล่าสุด ไปจำหน่ายทั่วโลกเป็นครั้งแรก