*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

+++เรื่องการส่งออก นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ประจำเดือนเมษายน 2558 ว่าการส่งออกเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น โดยมีมูลค่า 548,461 ล้านบาท หรือขยายตัวติดลบร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นอัตราการติดลบน้อยที่สุดในช่วง 4 เดือน  ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกในเดือนเมษายน ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้า และมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจากการปรับลดดอกเบี้ยเชิงนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  อ่อนค่าลงเหลือ 33.5 บาท/ดอลลาร์ รวมทั้งการนำเข้าของประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยการนำเข้าเดือนเมษายนของสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.4 ออสเตรเลียขยายตัวร้อยละ 26.7 อินเดียขยายตัวร้อยละ 5.7 กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) ขยายตัวร้อยละ 3.5  จีนขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกของปีที่ร้อยละ 1.1 ส่วนญี่ปุ่น ขยายตัวติดลบในอัตราลดลงเหลือร้อยละ 3 สหภาพยุโรป(อียู)ติดลบเหลือร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากอุปทานในตลาดโลกที่เริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการที่บริษัทน้ำมันในสหรัฐอเมริกายกเลิกการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน รวมทั้งราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะยางพารามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

+++ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังกู้ยืมเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. วงเงิน 14,300 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายแทนกู้เงินบางส่วน ในโครงการกู้เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนน ระยะเร่งด่วน ภายในกรอบวงเงิน 78,295 ล้านบาท โดยจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากการกู้เงินได้ถึงปีละประมาณ 560 ล้านบาท

+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดิมโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและระบบขนส่งทางถนนจะต้องกู้เงินจากต่างประเทศ แต่ขณะนี้ภายในประเทศมีเสถียรภาพทางการเงิน ครม.จึงมีมติให้กู้ยืมเงินจากกองทุน กสทช.แบบปลอดดอกเบี้ยแทน  รายงานจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ติงในที่ประชุมว่า การบูรณาการแผนงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับกรมและกระทรวงไม่มีปัญหา แต่โครงการที่คิดมาจากระดับท้องถิ่นมีการพิจารณากันไม่ดีพอ จึงมีความซ้ำซ้อน และขอให้ไปพิจารณาไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนหรือให้เหลือน้อยที่สุด

+++รายงานข่าวจาก บมจ.ปตท. เปิดเผยถึงรายชื่อผู้สมัครประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. แทนนาย ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ คนปัจจุบัน ซึ่งหมดวาระวันที่ 9 ก.ย. เมื่อวานนี้ 26 พ.ค. เป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัคร ในเวลา 16.30 น. มีผู้ยื่นใบสมัคร 3 คน คือ นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.ด้านกลยุทธ์องค์กรและแผน บมจ.ปตท. และนายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกบอลเคมีคอล (พีทีทีจีซี) โดยทั้ง 3 คน เป็นลูกหม้อของปตท. โดยนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะกรรม การคัดเลือกประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท. คนใหม่ จะเรียกประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เพื่อสอบสัมภาษณ์ผู้ที่สมัครทั้งหมดในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ก่อนเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาสัญญาจ้างที่มีอายุงาน 4 ปี เริ่มงานวันที่ 10 ก.ย.

+++กสทช.จะเชิญนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ผู้บริหารบริษัท ไทยทีวี มาหารือการขอยกเลิกสัมปทานทีวีดิจิทัล เวลา 14.00 น. จากนั้น 17.00 น. นางพันธุ์ทิพา จะตอบคำถามสื่อมวลชนผ่านรายการ สน.17 ที่บริษัท ไทยทีวี นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. และกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า ที่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ส่งหนังสือมายัง กสทช.ขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิตอล เบื้องต้น กสทช.ต้องดำเนินการตามระเบียบกติกา คือต้องส่งหนังสือแจ้งให้บริษัทไทยทีวีมาชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่ 2 ทั้ง 2 ช่อง ได้แก่ ช่องไทยทีวีและช่องโลก้า พร้อมกับต้องชำระเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี การที่บริษัทไทยทีวีขอคืนใบอนุญาต ตามขั้นตอนจากนี้จะเชิญผู้บริหารบริษัทไทยทีวีมาหารือถึงเงื่อนไขต่างๆ โดยเฉพาะเงื่อนไขแนบท้ายการประมูลที่ระบุให้ต้องจ่ายเงินค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอลทั้งหมดเต็มจำนวน หากท้ายสุดหากผู้ประกอบการยังไม่ยอมชำระเงินตามระเบียบ กสทช.สามารถยึดหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงิน (แบงก์การันตี) ที่ผู้ประกอบการมอบไว้ให้ กสทช.เมื่อครั้งชนะการประมูลทีวีดิจิตอล โดยแบงก์การันตีจะมีมูลค่าเท่ากับเงินเหลือค้างจากค่าประมูลทั้งหมดที่ทางผู้ประกอบการต้องชำระให้แก่ กสทช. ซึ่ง กสทช.สามารถนำแบงก์การันตีไปขึ้นเงินกับทางสถาบันการเงินได้

+++หลังจากที่จับมือพ่นสีสเปรย์ได้แล้ว พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ ผกก.สน.พหลโยธิน ควบคุมตัวนายณัฐพล เข็มเงิน อายุ 22 ปี ผู้ต้องตามหมายจับศาลอาญา ที่ใช้สีสเปรย์ พ่นบริเวณป้ายศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มาแถลงข่าวหลังจับกุมได้ในช่วงเช้า ที่บริเวณซอยศรีสมาน 4 แยกซอยจุฬา 7 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  นายณัฐพล ยอมรับว่า เป็นคนพ่นสเปรย์จริง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคดีของเพื่อนรุ่นพี่ที่ถูกยิง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมือง พล.ต.ต.ก่อเกียรติ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวทางศาลทหารได้ชี้แจงมาว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และสน.บางเขน ในพื้นที่ที่เพื่อนรุ่นพี่ถูกยิง แจ้งว่าตำรวจได้อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุแล้ว และมั่นใจว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี

+++ในที่สุดก็จับได้ คดีพบชิ้นส่วนมนุษย์บรรจุอยู่ 3 ถุงที่ใต้สะพานต่างระดับแยกแก่งคอย-บ้านนา ต.แก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค.พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.จ.สระบุรี พ.ต.อ.จักรกฤช วีระเดช ผกก.สภ.แก่งคอย แถลงจับผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ พร้อมของกลางมีดปาดตาล 1 เล่ม รถจักรยานยนต์อีก 1 คัน โดยจับกุมได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วรรณวิมล ม้าเทศ เช่าห้องอยู่กับสามีที่ห้องเช่าเลขที่ 258/11 หมู่ 11 ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย ไปตรวจสอบพบว่าสามีของผู้ตายคือนายกมลชาติ แก้วกอง อายุ 32 ปี หายตัวไป จึงออกติดตามและจับกุมได้ดังกล่าว จากการสอบสวนนายกมลชาติรับสารภาพว่า ไปทำงานที่ภาคใต้ โดยปล่อยให้ภรรยาอยู่ที่ห้องเช่าเกิดเหตุ ต่อมาจับได้ว่าภรรยานอกใจแอบมีกิ๊ก เลยเดินทางมาหาที่ห้องเพื่อขอร้องและชวนให้ไปอยู่ที่ภาคใต้ด้วยกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมไป เลยมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะใช้มีดปอกผลไม้แทงลำคอ จากนั้นลากศพเข้าห้องน้ำ ชำแหละแยกชิ้นส่วนนำขึ้นรถ จยย.โยนทิ้งใต้สะพาน เสร็จแล้วขี่รถกลับห้องเช่าเก็บเสื้อผ้า เดินทางไปทำงานเชฟที่โรงแรมใน จ.ยะลา กระทั่งโดนจับได้ดังกล่าว พล.ต.ท.อำนวย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเคยทำงานอยู่ในโรงฆ่าหมูมาก่อน เลยมีความชำนาญในการใช้มีดหั่นศพเป็นชิ้น

+++กรณีนายประสิทธิ์ ต่อมณี อายุ 48 ปี บุกบริษัท เซอร์ไคล์ฟ จำกัด เลขที่ 125/8 โครงการตรีจุฑา 1 ถนนกาญจนาภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม. ใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงนายวรพงศ์ โอภาสเจริญกิจ อายุ 50 ปี เจ้าของบริษัทเสียชีวิต นางทิตยา โอภาสเจริญกิจ อายุ 53 ปี ภรรยานายวรพงศ์ อาการปลอดภัยแล้ว และนายนคร เครือสุนทรวานิช อายุ 36 ปี ผู้จัดการบริษัทได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด เสียชีวิตสาเหตุจากไม่พอใจที่บริษัทไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องช่วยหายใจที่ซื้อไป  พ.ต.อ.ชำนาญ เอกพิทักษ์พงศ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.หลักสอง เปิดเผยว่า  วันนี้ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวนายประสิทธิ์ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีต่อไป ตั้ง5 ข้อหา ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหายิงปืนในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และ .ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ออกจากห้องขังมาสอบสวนเพิ่มเติม